นายอานนท์ นำภา หนึ่งในแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และแกนนำกลุ่มประชาชนปลดแอก กล่าวภายหลังรับรางวัล "จารุพงษ์ ทองสินธุ์ เพื่อประชาธิปไตย" ในงานรำลึก 44 ปี เหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 ว่า ในฐานะคนรุ่นใหม่ ขอยืนยันว่าคนรุ่นใหม่ที่ตื่นมาต่อสู้ในประเด็นที่แหลมคม และในประเด็นที่หลายคนไม่อยากพูดถึง ซึ่งพวกเราจะต่อสู้ให้ถึงที่สุด เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสังคม เพื่อตอบคำถามว่าการสูญเสียจะไม่สูญเปล่า และการต่อสู้จะต้องจบในรุ่นเรา
สำหรับการนัดหมายชุมนุมในวันที่ 14 ต.ค.นี้ จะเป็นรวบรวมหลากหลายองคาพยพเพื่อยกระดับการชุมนุมเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีลาออกทันที และให้มีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ โดยจะมีการขีดเส้นชัดเจนในการชุมนุมครั้งนี้ รวมถึงการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ที่ยังยืนยันเหมือนเดิมว่าไม่ได้มีเจตนาในการล้มล้างหรือจาบจ้วง แต่ต้องการซ่อมแซมปรับปรุงให้สถาบันกษัตริย์อยู่คู่กับสังคมไทยอย่างแท้จริง
"ที่ผ่านมาเราได้เปล่งเสียงหลายครั้ง แต่ไม่ได้รับการตอบรับ แต่ในวันที่ 14 ต.ค. จะเป็นลักษณะการประท้วง กดดัน ขยับเพดานการเรียกร้อง ไม่ใช่การชุมนุนเพื่อแสดงออก...14 ต.ค.จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงแน่นอน จะมีการรวมตัวกันของกลุ่มนักศึกษาปลดแอก แนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ โดยนิสิต นักศึกษา และน้องๆมัธยม ได้มีการคุยกัน วางมาตรการชุมนุมแล้ว"
ส่วนจะยืดเยื้อหรือมีการเคลื่อนขบวนหรือไม่นั้น นายอานนท์ กล่าวว่า ขึ้นกับสถานการณ์การชุมนุมนวันนั้น เพราะวันที่ 14 ต.ค. เป็นวันทำงาน คนที่มาชุมนุมคือคนที่มีความมุ่งมั่นที่จะมาร่วม ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดกระแสสังคมได้เป็นอย่างดี
"ถ้ามาเป็นล้านก็จบในวันเดียว แต่ถ้าเป็นแสนอาจพักรอคนที่อยู่ต่างจังหวัด ยืดเยื้อหรือไม่ขึ้นกับสถานการณ์วันนั้น" นายอานนท์ กล่าว