นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ที่ประชุม กมธ.ได้มีการพิจารณากรณีที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) ทำสัญญาซื้อขายถุงมือยางกับบริษัทเอกชนมูลค่า 112,500 ล้านบาท โดยเบื้องต้นผู้แทน อคส.ชี้แจงว่า ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยมีความเห็นว่านิติกรรมการซื้อขายที่เกิดขึ้นอาจเป็นการกระทำที่เกินอำนาจหน้าที่และผิดระเบียบของ อคส.และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง สัญญาดังกล่าวจึงอาจเป็นโมฆะ ซึ่งคณะกรรมการมีมติให้ระงับนิติกรรมการซื้อขายทั้งหมด โดย ผู้อำนวยการ อคส. ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีในเรื่องดังกล่าวแล้ว และส่งเรื่องนี้ไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย เมื่อดีเอสไอชี้มูลข้อเท็จจริงแล้วจะรายงานผลมายัง กมธ.ต่อไป
โฆษก กมธ.ฯ กล่าวว่า กมธ.ได้มีข้อสังเกตและข้อเสนอแนะ 4 ข้อ ดังนี้ 1.การเบิกจ่ายเงินเพื่อทำสัญญาการซื้อขายถุงมือยางจะต้องกระทำผ่านคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้าง ดังนั้นในเรื่องนี้คณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างจึงอาจมีความผิด 2.จำนวนถุงมือยางที่ซื้อขายมีจำนวนมาก ดังนั้นจึงมีข้อสังเกตว่าในความเป็นจริงแล้วมีถุงมือยางจำนวนตามสัญญาที่ซื้อขายกันจริงหรือไม่ 3.ขอให้ อคส.รีบดำเนินการตรวจสอบว่าจำนวนเงินที่ทำการโอนไปแล้วตามสัญญาซื้อขายขณะนี้อยู่ที่ใด และ 4.ขอให้ อคส.แถลงข่าวหรือแจ้งต่อสื่อมวลชน เพื่อให้ทราบถึงมติของคณะกรรมการตรวจสอบที่ให้ระงับนิติกรรมการซื้อขายถุงมือยางทั้งหมด
ด้านนายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ค่อนข้างชัดเจนว่าโครงการดังกล่าวเป็นการเอื้อทุจริตโดยมีคนในองค์กรร่วมรู้เห็น
"ขอตั้งข้อสังเกตว่าเรื่องนี้ ถ้าผู้บริหาร อคส.ไม่รู้เห็น คงจะไม่สั่งถอนเงินหมุนเวียนภายในองค์กรที่มีอยู่ 3,230 ล้านบาทออกไปจ่ายล่วงหน้าให้บริษัทนี้ถึง 2,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันก็ยังไม่รู้ว่าเงินจำนวนนี้อยู่ในมือใคร บัญชีใคร กี่คน รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พูดมาตลอดว่าเป็นรัฐบาลปราบทุจริต มีรัฐธรรมนูญปราบโกง หรือแม้แต่ รมว.พาณิชย์ที่ดูแลกำกับ อคส.โดยตรง กลับไม่เคยพูดถึงการทุจริตการจัดซื้อถุงมือยาง 1.1 แสนล้านเศษ ที่รัฐต้องสูญเงินไปแล้ว 2,000 ล้านบาทว่าจะเอาคนที่ร่วมทุจริตมาลงโทษตามกฎหมายให้เห็นเป็นตัวอย่าง" นายวิลาศ กล่าว