นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการเสนอแนวทางใหม่ให้กับรัฐบาลและคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) พิจารณาแนวทางภายใต้ความปรองดองแห่งชาติ หลังจากผลการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่พบว่าประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ, จำนวนบัตรเสีย และผู้ที่ไม่มาใช้สิทธิ มีจำนวนมาก เป็นการแสดงสัญลักษณ์ว่าไม่เห็นด้วยกับการปฏิวัติรัฐประหาร
"ผลประชามติที่ออกมา ย่อมบ่งชี้ว่าประชาชนไม่ยอมรับการยึดอำนาจ ดังนั้นรัฐธรรมนูญที่มาจากการยึดอำนาจก็เป็นเหมือนผลไม้ที่มีพิษ เพราะมาจากต้นไม้ที่เป็นพิษ"นายนพดล กล่าว
นายนพดล กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ใช้แค่คำว่าสมานฉันท์ แต่เห็นว่าเป็นเรื่องความปรองดองแห่งชาติ เพราะที่ผ่านมาทุกเรื่องถูกมองเป็นเรื่องการเมืองแม้แต่เรื่องของกีฬา ซึ่งสิ่งที่อดีตนายกฯ ต้องการเรียกร้องให้เกิดขึ้น คือ การปฏิบัติที่เท่าเทียมกัน โดยเฉพาะในการดำเนินคดี ไม่ควรมีการตั้งธงตัดสินไว้ล่วงหน้า ตลอดจนการเข้าไปแทรกแซงกระบวนการต่าง ๆ
พร้อมกันนี้ ยังยืนยันว่าหากทางการจะฟ้องร้องหรือดำเนินคดีบุคคลในครอบครัวชินวัตรและเครือญาติอย่างมิชอบนั้น พ.ต.ท.ทักษิณจะดำเนินการฟ้องกลับทั้งหมด
วันพรุ่งนี้(23 ส.ค.) พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมานจะมอบหมายให้ทนายความยื่นฟ้องแพ่งแก่นายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)เพื่อเรียกค่าเสียหาย 1,500 ล้านบาทกรณีหมิ่นประมาทว่าทั้งคู่กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ด้วยการปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นของ บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น(SC)
และเห็นว่าคดีนี้เป็นคดีที่เล็กมากหากเปรียบเทียบกับคดีที่ต่างชาติบุกรุกพื้นที่เกาะยาว จ.พังงา โดยมีบุคคลกว้านซื้อที่ดินจากชาวบ้านที่มีเอกสารสิทธิและไม่มีเอกสารสิทธิ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินคดีของดีเอสไอ
"ดีเอสไอทุ่มเจ้าหน้าที่ทั้งหมดมาทำคดีนี้ จนไม่มีเวลาไปทำคดีอื่นเลย ซึ่งถือเป็นการเลือกปฏิบัติ"นายนพดล กล่าว
ส่วนกรณีการยื่นขอถอนอายัดทรัพย์แก่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.)นั้น ขณะนี้บุคคลที่ถูกคตส.มีคำสั่งอายัดทรัพย์ ได้ยื่นเรื่องขอถอนอายัดทรัพย์ไปเกือบครบทุกคนแล้ว แต่ทั้งนี้สังหรณ์ใจว่า คตส.อาจจะพิจารณาเรื่องดังกล่าวหลังจากผ่านพ้นการเลือกตั้งไปก่อน เพราะเกรงว่าจะมีการนำเงินออกไปใช้เพื่อสนับสนุนพรรคการเมืองในการลงเลือกตั้งครั้งหน้า
สำหรับโพลล์จากบางสำนักระบุว่าประชาชนเชื่อมั่นกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของพรรคพลังประชาชนทั้งที่การดำเนินการของพรรคยังไม่คืบหน้านั้น นายนพดล กล่าวว่า เป็นเพราะประชาชนส่วนใหญ่ต่างทราบดีว่าสมาชิกของพรรคพลังประชาชนเป็นกลุ่มไทยรักไทยเก่า ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณ ยังเชื่อว่าประชาชนที่เคยให้การสนับสนุนไทยรักไทยจะยังคงให้การสนับสนุนพรรคพลังประชาชนต่อไป
แต่ได้ฝากเตือนสมาชิกพรรคพลังประชาชนว่าไม่ควรชะล่าใจ แต่ควรจะสร้างนโยบายที่ดีเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ซึ่งเรื่องนี้จึงนับว่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ทางการพยายามสกัดกั้นการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรคพลังประชาชนในทุกรูปแบบ
นายนพดล ยืนยันว่า การเดินทางกลับประเทศไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัว จะยังยึดกรอบเวลาที่เหมาะสมคือภายหลังจากการเลือกตั้งที่มีรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตยแล้ว
--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--