พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษก สตช.) แถลงเน้นย้ำการปฏิบัติหน้าที่ของกองอำนวยการร่วมแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง (กอร.ฉ.) โดยระบุว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงการประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นการใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.การบริการราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 จึงไม่ได้เป็นช่วงสถานการณ์ที่ปกติ ดังนั้นการบังคับใช้กฎหมายในช่วงเวลานี้กับกลุ่มผู้ชุมนุมจึงเป็นไปตามกฎหมายเฉพาะ ไม่อนุญาตให้มีการชุมนุมในวัตถุประสงค์ที่จะก่อให้เกิดความร้ายแรงใดๆ ทั้งสิ้น
ซึ่งหากมีการฝ่าฝืน กรอ.ฉ.จำเป็นต้องทำหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย การปฏิบัติการของตำรวจได้ดำเนินการโดยยึดหลักกฎหมาย เป็นไปตามหลักสากล ตามยุทธวิธีที่ทั่วโลกยอมรับ โดยมุ่งสร้างการรักษาสมดุลระหว่างความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก
"ยืนยันว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงการบังคับใช้กฎหมายพิเศษในสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ซึ่งมีความแตกต่างกับการบังคับใช้กฎหมายในสถานการณ์ทั่วไป การดำเนินการใดๆ ก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะยึดหลักกฎหมายเป็นหลัก ส่วนการดำเนินการทางกฎหมายกับกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น เป็นไปตามกระบวนการที่สามารถตรวจสอบได้จากหลักสากล เราไม่มีการดำเนินการที่รุนแรง หรือเกินเลยไปกว่าตามที่ระบบการควบคุมฝูงชน หรือระบบการใช้กฎหมายได้กำหนดไว้ เป็นการทำในกรอบทุกอย่าง ยืนยันว่าเราทำตามหน้าที่และทำตามกรอบกฎหมาย ประกอบกับหลักการทางยุทธวิธีที่เป็นสากล" โฆษก สตช.กล่าว
สำหรับข้อสงสัยเรื่องสารเคมีสีน้ำเงินที่รถฉีดน้ำแรงดันสูงของตำรวจใช้ฉีดเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมที่บริเวณหน้าศูนย์การค้าสยามพารากอน ในคืนวันที่ 16 ต.ค.63 นั้น โฆษก สตช.กล่าวว่า จะขอมอบหมายให้นักเคมี หรือผู้ชำนาญการในด้านนี้มานำเสนอรายละเอียดให้แก่สื่อมวลชนได้ทราบต่อไป