นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในขณะนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังหารือเพื่อหาทางออกในการเสนอขอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ แต่ไม่สามารถทำได้โดยเร็ว เนื่องจากมีพระราชกฤษฎีกาเปิดประชุมสมัยสามัญลงมาและประกาศไปแล้ว ซึ่งเหลือช่วงเวลาประมาณอีก 10 วัน แต่หากจะเปิดสภาสมัยวิสามัญก็สามารถทำได้ตามกฏหมาย แต่อยู่ระหว่างการหาช่องทางว่าจะทำอย่างไร ซึ่งผู้เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการอยู่
ส่วนรัฐบาลจะเป็นฝ่ายเสนอเปิดประชุมเองหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า สามารถเป็นไปได้ทุกทาง เพราะมาตรา 122 รัฐบาลเป็นคนเสนอขอเปิดเอง และมาตรา 123 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎระเข้าชื่อ 1 ใน 3 ซึ่งอาจต้องประสานงานกันให้ชัดเจนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขึ้น
ส่วนที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะหารือกันในวันพรุ่งนี้ (20 ต.ค.) หรือไม่นั้น นายวิษณุ ระบุว่า ยังไม่แน่ชัด เบื้องต้นอาจหารือกันในวันนี้หรือพรุ่งนี้ก็ได้ แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ต้องผ่านมติของครม. ขณะเดียวกันยังไม่ทราบระยะเวลาและจำนวนวันที่เหมาะสมในการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ
นายวิษณุ ยอมรับว่า สถานการณ์พัฒนาไปในทิศทางที่หนักขึ้นกว่าเดิม แต่ยังไม่ใช้คำว่ารุนแรง ดังนั้นการที่นำเรื่องนี้ไปพูดคุยกันในสภาจะมีประโยชน์ และข้อดีมากกว่าข้อเสีย ส่วนจะปล่อยให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนไหวเช่นนี้ต่อไปหรือไม่ ขึ้นอยู่กับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายหารือกัน และไม่ทราบว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเปิดเวทีเจรจากับผู้ชุมนุม
นายวิษณุ ระบุว่า ยังไม่จำเป็นต้องประกาศขยายพื้นที่สถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงไปทั่วประเทศ เพราะมีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่ทับซ้อนอยู่ เช่นเดียวกับไม่มีเหตุที่จะต้องประกาศเคอร์ฟิวท่ามกลางความเคลื่อนไหวของมวลชน ซึ่งไม่ทราบว่าในส่วนของกทม.จะมีประกาศอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ ขณะที่รัฐบาลไม่ได้มีการห้ามการชุมนุมแต่อย่างใด