นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า 2 เรื่องที่จะต้องดำเนินการต่อเนื่อง คือ จะต้องผลักดันให้มีการเปิดประชุมสภาวิสามัญให้ได้และต้องเร็ว เพราะมีแนวโน้มว่ารัฐบาลอาจจะดึงเวลา รวมถึงจะต้องให้รัฐบาลยกเลิก พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งประธานรัฐสภาก็เห็นชอบด้วย อีกทั้งควรปล่อยตัวแกนนำผู้ชุมนุม
ทั้งนี้ ฝ่ายค้านขอให้คำยืนยันว่าสถานการณ์วันนี้รัฐบาล โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องตัดสินใจด้วยตนเอง หากเสียสละลาออกทุกอย่างจะง่ายขึ้น ปัญหาที่ทุกคนวิตกว่าจะล่วงล้ำกล้ำกลืนจะเบาบางลง
ด้านพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวว่า ควรเร่งให้มีการเปิดสภาสมัยวิสามัญ เพื่อใช้เป็นกระบวนการหนึ่งในการแก้สถานการณ์บ้านเมือง เนื่องจากประชาชนไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีที่ถือเป็นศูนย์รวมของปัญหา ซึ่งขณะนี้การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็อยู่ในกระบวนการของกรรมาธิการ (กมธ.) ที่ไม่เห็นความมุ่งมั่นที่จะแก้ไข
ขณะที่นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า นอกจากการเปิดสมัยประชุมวิสามัญเพื่อตรวจสอบการใช้อำนาจของฝ่ายบริหาร ควรนำวาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้ามาพิจารณาด้วย เพราะการรับหลักการวาระที่ 1 ยังค้างอยู่ โดยได้มีการขอขยายเวลาไปอีก 15 วัน
ทั้งนี้ หากรัฐบาลมีความตั้งใจจริงในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการคลี่คลายสถานการณ์และรัฐบาลสามารถทำได้ ซึ่งหากประธาน กมธ. ยืนยันว่าในวันที่ 22 ต.ค.สามารถจบได้ ก็สามารถเสนอเข้าที่ประชุมทันปลายเดือนนี้ ต่อด้วยการลงมติรับหลักการ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการคลี่คลายสถานการณ์ได้เป็นรูปธรรม
นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้รัฐบาลยุติการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ซึ่งถือเป็นรัฐประหารเงียบ วันนี้ใช้อำนาจไม่ต่างกับสถานการณ์หลังรัฐประหารทั้งสั่งเรียกบุคคล สั่งค้นสถานที่ ด้านกองอำนวยการร่วมแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง (กอร.ฉ.) เองก็ใช้อำนาจตรวจสอบการออกอากาศของสื่อมวลชนจำนวนหนึ่ง รวมทั้งเรียกร้องให้พรรคร่วมถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล