ผู้ชุมนุมและแนวร่วมกลุ่มราษฎรเคลื่อนขบวนถึงทำเนียบรัฐบาลหลังจากออกเดินเท้าจากจุดรวมแรกที่รอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิตามการนัดหมายของแกนนำตั้งแต่เวลา 16.00 น.และได้รับการส่งสัญญาณจากแกนนำผ่านเพจของเยาวชนปลดแอก โดยเจ้าหน้าที่เปิดทางให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนผ่านโดยสะดวกตลอดทางจนมาถึงแนวกั้นด่านสุดท้ายของเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณสะพานชมัยมรุเชษฐ์ ขณะที่มวลชนยังคงทยอยเข้ามาสมทบอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมขึ้นไปบนรถเมล์ที่จอดขวางอยู่ด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล โดยกล่าวว่าพร้อมถอยคนละก้าวตามคำขอของนายกรัฐมตรี แต่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องลาออก "เราพร้อมถอย 1 ก้าว แต่ประยุทธ์ ต้องลาออก" พร้อมเตรียมนำเอกสารใบลาออกมามอบให้กับนายกรัฐมนตรีด้วย
ขณะที่วันนี้ยังมีอีกหลายจุดทั่วประเทศที่หลายกลุ่มหลายองค์กรและประชาชนได้จัดขึ้นใน กทม.ได้แก่ 17.00 น. หน้าเดอะมอลล์บางกะปิ และ 17.30 น. ลานพ่อขุน ม.รามคำแหง หัวหมาก
ส่วนต่างจังหวัด
15.00 น. หน้ากระทรวงพาณิชย์ นนทบุรี
16.30 น. สวนเพชรบุระ เพชรบูรณ์
17.00 น. ตลาดโต้รุ่ง ฝั่งธ.กรุงไทย สกลนคร
17.00 น. ลานจอดรถสำงานสาธารณสุขใหม่ มาบตะพุด ระยอง
17.00 น. ศาลาร้อยปี (ศาลากลาง) ตราด
17.30 น. ลานเทเลทับบี้ ขอนแก่น
16.00 น. ข้างตึกคณะศึกษาศาสตร์ มอ. ปัตตานี
แกนนำกลุ่มราษฎร ประกาศผ่านเพจเฟซบุ๊กแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมว่าตั้งแต่เวลา 17.30 น. จะเคลื่อนขบวนของกลุ่มผู้ชุมนุมจากบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ไปยังทำเนียบรัฐบาล ซึ่งขณะนี้ม็อบราษฎรเริ่มเคลื่อนขบวนแล้ว แต่ยังไม่ได้เปิดเผยว่าจะมีการจัดกิจกรรมใดที่ทำเนียบรัฐบาล
เกิดเหตุชุลมุนขึ้นเล็กน้อยในระหว่างการเคลื่อนขบวนของกลุ่มราษฎร ภายหลังเคลื่อนขบวนออกจากบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิมาถึงสี่แยกพญาไท เนื่องจากนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา ซึ่งเป็นอดีตทนายของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ยืนอยู่กลางแยกพญาไทพร้อมกับการนำแผงเหล็กมากั้นตัวเอง และจะไม่ยอมเปิดทางให้ผู้ชุมนุมผ่าน เพราะเห็นว่ากลุ่มผู้ชุมนุมมีการละเมิดสถาบันกษัตริย์ พร้อมยืนยันว่ามาคนเดียว และมาด้วยสันติวิธี ไม่ต้องการจะยั่วยุ เพียงแต่ต้องการสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา
จุดนี้ได้มีปากเสียงกันเล็กน้อยกลับกลุ่มผู้ชุมุนม แต่ไม่ได้มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ เกิดขึ้น ซึ่งสุดท้ายแล้วการ์ดของกลุ่มผู้ชุมนุมได้พยายามกดดันจนนายนิติธร ออกไปพ้นเส้นทาง และกลุ่มผู้ชุมนุมได้เริ่มเคลื่อนขบวนต่อไปถึงทำเนียบรัฐบาลเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.เข้าประชิดแนวรั้วกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนถึงทำเนียบ
โดยผู้ชุมนุมแถวหน้าพยายามเข้ารื้อแนวแบริเออร์และรั้วลวดหนามที่ขวางกั้นอยู่บริเวณแยกอุรุพงษ์ และผู้ชุมนุมบางส่วนฝ่าแนวรั้วลวดหนามเข้าไปพยายามดันแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ฝ่าผ่านไปได้ และกระจายเข้ามาใกล้แยกยมราชก่อนเข้าสู่ถนนพิษณุโลกที่มุ่งหน้าทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังตรึงกำลังไว้จากที่ถอยร่นมาจากแยกอุรุพงษ์ และนำรถบัสของตำรวจตระเวนชายแดนมาจอดขวางไว้
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ถอนกำลังออกจากแนวกั้นทำให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนเข้าสู่ถนนพิษณุโลกเพื่อมุ่งหน้าไปยังทำเนียบรัฐบาล หลังจากมีการเจรจากันทั้งสองฝ่าย ซึ่งทางผู้ชุมนุมยืนยันว่าจะเข้าไปทำกิจกรรมที่หน้าทำเนียบฯ ก่อนจะสลายตัวไม่ปักหลักค้างคืน ต่อจากนั้นระหว่างทางเจ้าหน้าที่ได้เปิดแนวกั้นให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนผ่านไปจนถึงแนวกั้นของเจ้าหน้าที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ขณะที่มีรายงานข่าวว่าเจ้าหน้าที่ได้เตรียมรถฉีดน้ำแรงดันสูงมาจอดไว้ใกล้กับกระทรวงศึกษาธิการแต่ยังไม่ได้เคลื่อนออกมาปฏิบัติการแต่อย่างใด
ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบ.ตร.) ได้เดินทางไปตรวจความเรียบร้อยที่บริเวณสะพานชมัยมรุเชษฐ์ ถ.พิษณุโลก หน้าทำเนียบรัฐบาล ซึ่งบรรยากาศโดยรอบทำเนียบฯ ขณะนี้มีตำรวจควบคุมฝูงชน มาตรึงกำลังภายในทำเนียบรัฐบาล ส่วนนายกรัฐมนตรีได้เดินทางออกจากทำเนียบฯ แล้วตั้งแต่เวลาประมาณ 16.20 น. ขณะที่ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ได้ทยอยกลับบ้านแล้ว
บรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังผู้ชุมนุมกลุ่มราษฎรเคลื่อนขบวนออกเดินทางจากอนุสาวรีย์ชัยฯ มายังทำเนียบรัฐบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรึงกำลังรักษาความปลอดภัย พร้อมนำแผงเหล็กและโซ่ ปิดกั้นประตู 1 ด้านสะพานชมัยมรุเชษฐ์ และตลอดเส้นริมคลองเปรมประชากร ด้านข้างสถาบันเทคโนโลยีราชมงคลพาณิชย์พระนคร มีรถตู้ของเจ้าหน้าที่ตำรวจจอดเป็นแนว เพื่อสับเปลี่ยนกำลัง ในการดูแลโดยรอบทำเนียบรัฐบาล
รวมถึงมีตำรวจควบคุมฝูงชน มาตรึงกำลังภายในทำเนียบรัฐบาล โดยด้านหน้าประตู 1 มีรถขยายเสียงของเจ้าหน้าที่ตำรวจจอดเตรียมการไว้ 1 คัน ส่วนการจราจรด้านหน้าทำนียบรัฐบาล ปิดถนนพิษณุโลกตั้งแต่สะพานชมัยมรุเชษฐ์จนถึงถนนราชดำเนินนอก
สำหรับความเคลื่อนไหวที่ ม.รามคำแหง ได้เกิดเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่มราษฎร กับกลุ่มภาคีปกป้องสถาบันเนื่องจากมีการนัดชุมนุมในสถานที่เดียวกันคือ ลานพ่อขุน แม้ว่ากลุ่มราษฎรได้เปลี่ยนสถานที่ชุมนุมไปหน้าอาคารอธิการบดีแต่กลุ่มภาคีฯ ได้เคลื่อนเข้ามาเผชิญหน้าในจุดดังกล่าวจนกระทั่งมีเหตุกระทบกระทั่งกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าเคลียร์สถานการณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยกลุ่มภาคีฯ ได้เปลี่ยนสถานที่ไปรวมตัวที่หน้า สน.หัวหมากแทน