พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กล่าวว่า แม้คำว่าคุณธรรมและจริยธรรมจะเป็นนามธรรมที่ไม่สามารถจับต้องได้ แต่สามารถสัมผัสได้ด้วยใจและด้วยมโนธรรม สำหรับคุณธรรมและจริยธรรมในประเทศไทยนั้น ถ้าพูดอย่างตรงไปตรงมา ส่วนตัวเห็นว่าสึกหรอไปมาก ดังนั้นต้องช่วยกันแก้ไขให้สามารถใช้การได้ ซึ่งวิธีการที่ดีที่สุด คือ พวกเราทุกคนที่เป็นผู้ใหญ่ต้องยกย่องและประพฤติตัวให้เป็นตัวอย่างทางด้านคุณธรรมและจริยธรรม เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อบ้านเมือง
"จะได้รู้ว่าความถูกต้องชอบธรรมคืออะไร ความเป็นไทย ความเป็นธรรมคืออะไร ถ้าเราชี้ให้รู้เราจะได้คุณค่าทางจิตใจเป็นการเตือนให้รู้ว่าถ้าเราขาดคุณธรรมจะเสียหายแก่ตนเอง แต่เสียหายไม่มากเท่าสังคมและชาติบ้านเมือง แต่ถ้าคนไทยมีคุณธรรม ชาติบ้านเมืองจะสงบสุข มีความสามัคคี" พล.อ.เปรม กล่าวในงานมอบรางวัลประกวดคำขวัญเรื่อง "คุณธรรมและจริยธรรมที่พึงประสงค์ของเด็กและเยาวชนไทย" ที่ขึ้นโดยคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาและส่งเสริมการสร้างคุณธรรมและจริยธรรม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)
พล.อ.เปรม กล่าวว่า หนทางที่จะทำให้ประเทศไทยกลับคืนสู่ภาวะปกติหลังการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญต้องรอผลการลงประชามติก่อน ซึ่งขณะนี้ยังไม่รู้ผลว่าจะออกมาอย่างไร ตราบใดที่ยังไม่ทราบว่าร่างรัฐธรรมนูญจะได้รับเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบจากประชาชน เมื่อยังไม่มีคำตอบในการทำประชามติคงยังไม่มีปัจจัยพอที่จะพิจารณาว่าทิศทางของบ้านเมืองจะดำเนินไปในทางใด ขณะนี้ต้องดูว่าประชาชนจะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ หากประชาชนรับร่างรัฐธรรมนูญบ้านเมืองคงมีทางออกไปในทางหนึ่ง แต่หากไม่รับร่างรัฐธรรมนูญก็จะมีทางออกไปในอีกทาง ซึ่งคงไม่เหมือนกัน
รายงานข่าวแจ้งว่า ระหว่างที่ พล.อ.เปรม จะเดินทางกลับ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ได้รายงานความคืบหน้าการออก พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ฉบับ ซึ่ง พล.อ.เปรม ได้สอบถามถึงกรอบระยะเวลาการดำเนินงานของสภาร่างรัฐธรรมนูญด้วย
--อินโฟเควสท์ โดย รฐฦ/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--