เพจเฟซบุ๊กของเยาวชนปลดแอก และเพจเฟซบุ๊ก แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ประกาศชวนกลุ่มราษฎร เข้าร่วมชุมนุมโดยเดินขบวนจากแยกสามย่าน ไปยังสถานทูตเยอรมนี ในเย็นวันที่ 26 ต.ค.นี้ หลังจากที่ข้อเรียกร้องของกลุ่มราษฎรที่ต้องการให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไม่ได้รับการตอบรับภายในกำหนดระยะเวลา 3 วันซึ่งสิ้นสุดเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. วานนี้ (24 ต.ค.)
เพจเฟซบุ๊กของเยาวชนปลดแอก โพสต์เมื่อวานนี้ว่า "หลังจาก 21 ตุลาคมที่ผ่านมา ประชาชนผู้รักในประชาธิปไตยได้ให้เวลา 3 วัน ในการเซ็นใบลาออกของประยุทธ์ จนถึงตอนนี้ ครบ 3 วันแล้ว ประยุทธ์ไม่มีทีท่าว่าจะลาออกแม้แต่อย่างใด...วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคมนี้ 17:00 น.นี้! โปรดเตรียมตัวให้พร้อม เดินขบวนจากแยกสามย่านไปสถานทูตเยอรมัน รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดติดตาม"
ขณะที่เพจเฟซบุ๊กของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุนนุม ระบุว่า "เมื่อประยุทธ์ไม่ยอมออก เห็นทีแล้วเราก็คงต้องเจอกัน...จันทร์นี้เจอกัน เดินขบวนจากสามย่าน ไปสถานทูตเยอรมัน!"
ม็อบราษฎร ได้ชุมนุมลักษณะดาวกระจายในหลายจุดทั้งในและต่างจังหวัดต่อเนื่องมาเป็นเวลาเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว เพื่อเรียกร้องต่อรัฐบาลใน 3 ข้อหลัก ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง, การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการปฏิรูปสถาบันฯ ขณะที่รัฐบาลมีการจับกุมแกนนำผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการชุมนุมไปหลายรายในช่วงที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในเขตกรุงเทพมหานคร (กทม.) ทำให้การชุมนุมของคณะราษฎรกลุ่มหนึ่งมีขึ้นที่บริเวณหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 23 ต.ค. เรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ที่ถูกจับกุม ก่อนที่ทางการจะปล่อยตัวนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ "ไผ่ ดาวดิน" หนึ่งในแกนนำคนสำคัญออกมาในเย็นวันเดียวกัน แต่กลุ่มผู้ชุมนุมยังปักหลักพักค้างต่อเนื่องจนถึงช่วงดึกเมื่อคืนวานนี้ ก่อนยุติการชุมนุมที่บริเวณดังกล่าว
นายจตุภัทร์ ประกาศบนเวทีก่อนที่จะยุติการชุมนุมเมื่อคืนนี้ โดยได้นัดมวลชนกลุ่มราษฎร ชุมนุมในเวลาประมาณ 16.00 น. วันนี้ (25 ต.ค.) ที่บริเวณแยกราชประสงค์ หลังจากพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ลาออกจากตำแหน่ง อีกทั้งมองว่าในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้มุ่งแก้ปัญหาตามข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุม ขณะที่การประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา ที่จะมีขึ้นในวันที่ 26-27 ต.ค.นี้ ไม่น่าจะช่วยแก้ปัญหาได้แต่อย่างใด
"ถ้าเขาฟังประชาชนเพื่อแก้ปัญหา เราก็ไม่มีปัญหา แต่เขาไม่ฟังเราเลย ชัดเจนอยู่แล้ว เราก็ประเมินว่าเขาไม่ออก ฉะนั้น ทางที่จะทำได้คือพวกเราต้องเอาออก หน้าที่ของสภาก็ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกของสภา ดูว่ากลไกรัฐสภามีความหวังได้แค่ไหน ถ้าหลังจากรัฐสภาเสร็จเราก็มาเจอกันอีกที"นายจตุภัทร์ กล่าว
ทั้งนี้ รัฐบาลเตรียมใช้เวทีรัฐสภาเพื่อแก้ปัญหาสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน ซึ่งจะเป็นการประชุมร่วมระหว่างสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 26-27 ต.ค.นี้ โดยนายกรัฐมนตรีวางกรอบเพื่อรับฟังความเห็นจากสมาชิกรัฐสภาใน 3 ประเด็น ได้แก่ การพิจารณายกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่ใช้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ,การชุมนุมเมื่อวันที่ 14 ต.ค.63 ที่พบกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนขวางทาง และหยุดขบวนเสด็จฯ และสถานการณ์การชุมนุมตามจุดต่าง ๆ มีความวิตกจะกระทบต่อความสงบเรียบร้อย คมนาคม และเศรษฐกิจ