นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เหตุผล 3 ประกาศที่รัฐบาลอ้างในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในเขตกรุงเทพมหานคร (กทม.) นั้นเป็นการกล่าวร้ายกลุ่มผู้ชุมนุมที่ไม่มีโอกาสชี้แจง โดยเฉพาะเรื่องการขัดขวางขบวนเสด็จเมื่อวันที่ 14 ต.ค.63 อีกทั้งเป็นการสร้างความเสื่อมเสียให้กับสถาบันฯ ที่รัฐบาลอ้างว่าต้องการปกป้อง
ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่าการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญฯ เพียงแค่สองวันจะสามารถแก้ไขวิกฤตการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นได้ ดังนั้น จึงมีข้อเสนอที่เป็นทางออกของปัญหา 5 ประการ ได้แก่ 1.ข้อเสนอให้ถอยคนละก้าวนั้น ความจริง 7 ปีที่ผ่านมารัฐบาลรุกไล่ใส่ประชาชนที่เรียกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตยจนสุดทางมาถึงปากเหวแล้ว ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและประกาศยุติบทบาททางการเมือง
2.เมื่อลาออกแล้ว ต้องปล่อยให้กระบวนการตามระบอบประชาธิปไตยเดินหน้าต่อไป เปิดโอกาสให้สภาผู้แทนราษฎรทำหน้าที่เลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดย ส.ว.ไม่มายุ่งเกี่ยว
3.การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องเดินหน้า ไม่เตะถ่วง เมื่อเสร็จแล้วก็ยุบสภาเลือกตั้งใหม่
4.การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ เป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรง และตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 16 ต.ค.63
และ 5.รัฐบาลต้องเลิกพฤติกรรมดึงฟ้าต่ำด้วยการแอบอ้างสถาบัน
"ถ้าท่านรักสถาบันฯ จริง อย่าให้ความขัดแย้งในสังคมเข้าใกล้สถาบันที่เคารพรักสิครับ" นายจุลพันธ์ กล่าว
ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวอีกว่า การออกมาชุมนุมของประชาชนมีสาเหตุหลายประการ เช่น ความขัดแย้งในสังคม ความเหลื่อมล้ำ การบริหารงานที่ผิดพลาด การสืบทอดอำนาจ หากวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศลาออกจากตำแหน่งและประกาศยุติบทบาททางการเมือง วิกฤติทางการเมืองครั้งนี้ก็จะเป็นโอกาสให้ประเทศไทย แต่หากยังดึงดันอยู่ในตำแหน่งต่อไปวิกฤตครั้งนี้จะกลายเป็นหายนะของชาติ