พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลุกขึ้นชี้แจงต่อรัฐสภาว่า ในสัปดาห์หน้ารัฐบาลจะเสนอร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ เข้าสู่สภาฯ เพื่อจัดการออกเสียงประชามติตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งจะเป็นกลไกหนึ่งของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
สำหรับการเดินหน้ากระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น พล.อ.ประยุทธ กล่าวว่า ได้เชิญหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลเข้ามาหารือเพื่อพิจารณาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญในที่ประชุมรัฐสภา ซึ่งคาดว่ารัฐสภาจะพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระแรกในเดือน พ.ย. และวาระที่ 3 จะแล้วเสร็จไม่เกินภายในเดือน ธ.ค.นี้ แต่ยังไม่สามารถประกาศใช้ได้เพราะต้องรอกฎหมายการออกเสียงประชามติก่อน
"รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจในทุกเรื่อง พยายามหาทางแก้ไขปัญหาให้ได้มากที่สุด เร็วที่สุด" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ส่วนข้อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หากนายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่งจะส่งผลให้คณะรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งทั้งหมด ซึ่งตามมาตรา 167 (1) กำหนดให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีใหม่จะเข้าปฏิบัติหน้าที่ และจะต้องเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่จากที่ประชุมร่วมรัฐสภา โดยที่ประชุมต้องมีมติเกินกึ่งหนึ่ง ซึ่งไม่ว่าจะเป็น ส.ส.ฝ่ายใดรวมกันแล้วก็ไม่ถึงกึ่งหนึ่ง เพราะฉะนั้นต้องมี ส.ว.เข้าร่วมเลือกนายกรัฐมนตรีด้วย ส่วนกรณียุบสภา ครม.จะพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ และสมาชิกภาพ ส.ส.จะสิ้นสุดลงทั้งคณะ
ขณะที่นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานกรรมการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมก่อนรับหลักการ รัฐสภา กล่าวชี้แจงว่า กมธ.ได้ศึกษาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 6 ฉบับแล้วแต่ไม่มีการลงมติ เนื่องจากเป็นข้อมูลที่จะนำเสนอให้สมาชิกรัฐสภาตัดสินใจว่าจะรับหลักการหรือไม่ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำรายงานจำนวน 400 เล่มเพื่อแจกจ่ายให้กับสมาชิกรัฐสภา
ขณะที่ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนที่ยื่นผ่าน iLaw ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายชื่อประชาชนที่ร่วมลงชื่อสนับสนุน 5 หมื่นรายชื่อนั้น จะครบกำหนดในวันที่ 11 พ.ย. หากนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมรัฐสภาหลังจากวันที่ 15 พ.ย.ก็น่าจะสามารถพิจารณาไปพร้อมกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญอีก 6 ฉบับ ส่วนการบรรจุญัตติจะเป็นเมื่อใดนั้นขึ้นอยู่กับประธานรัฐสภาพิจารณา
นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวว่า จะหารือเป็นการภายในกับตัวแทนรัฐบาล ทุกพรรคการเมือง และ ส.ว.ว่า จะรอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับของประชาชนหรือไม่ หากรอก็คาดว่าจะสามารถนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งหมดเข้าสู่การพิจารณาได้ในช่วงกลางเดือนพ.ย. แต่หากไม่รอ ก็น่าจะพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมทั้ง 6 ฉบับของรัฐบาลและพรรคการเมืองได้ในช่วงต้นเดือน พ.ย.