นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะหัวหน้าทีมทนายความต่อสู้คดีหุ้นสื่อ เปิดเผยว่า วันพรุ่งนี้ศาลรัฐธรรมนูญได้นัดฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เวลา 15.00 น. ซึ่งมี ส.ส.ของพรรคถูกร้องเรื่องดังกล่าวรวม 7 คน ได้แก่ 1.น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร 2.นายอัศวิน วิภูศิริ 3.นางกันตวรรณ ตันเถียร กุลจรรยาวิวัฒน์ 4.นายภานุ ศรีบุศยกาญจน์ 5.น.ส.วชิราภรณ์ กาญจนะ 6.นายสมชาติ ประดิษฐพร 7.นายสาธิต ปิตุเตชะ ซึ่งทุกคนจะเดินทางไปฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญด้วยตนเอง
นายราเมศ กล่าวว่า ในฐานะหัวหน้าทีมทนายต่อสู้คดีนี้ เราเคารพในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าผลจะออกมาในทิศทางใด ศาลรัฐธรรมนูญให้โอกาสในการต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ เอกสารที่ค้นหามาจากหน่วยงานราชการเป็นจำนวนมากที่สามารถชี้ให้เห็นได้โดยชัดแจ้ง จึงมั่นใจในคุณสมบัติของ ส.ส.ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ว่าไม่มีใครเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชน ทีมทนายได้นำเสนอพยานหลักฐานครบถ้วนเพื่อชี้ให้เห็นว่าบริษัทของ ส.ส.แต่ละคนไม่ได้ทำกิจการดังที่กล่าว หลักฐานเริ่มต้นชัดเจนในแบบแสดงรายการแกี่ยวกับการประกอบธุรกิจของห้างหุ้นส่วนบริษัท ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ (แบบสสช.1) และเป็นแบบฟอร์มพื้นฐาน อีกทั้งไม่เคยขออนุญาตจดทะเบียนทำสื่อใด สินทรัพย์ บัญชีรายรับ รายจ่าย ไม่มีสินทรัพย์ใดที่เกี่ยวกับกิจการสื่อ และรายละเอียดอื่นๆได้ส่งศาลรัฐธรรมนูญไปครบถ้วนสมบูรณ์
"ข้อเท็จจริงจึงสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของมาตรา 98(4)ที่ต้องการป้องกันในเรื่องการเข้าไปแทรกแซงการทำหน้าที่ของสื่อสารมวลชนและเพื่อป้องกันความได้เปรียบเสียเปรียบกันในขณะลงสมัครรับเลือกตั้งและในขณะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร ดังนั้นสาระสำคัญแห่งเจตนารมณ์คือต้องเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ที่ได้ประกอบกิจการดังกล่าวอย่างแท้จริง" นายราเมศ กล่าว
นายราเมศ กล่าวว่า ไม่มีความกังวลใจแต่อย่างใด ท้ายที่สุดอยู่ที่ดุลพินิจของศาลรัฐธรรมนูญ เคารพในผลของคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ผลเป็นอย่างไรก็พร้อมยอมรับในกระบวนการยุติธรรม