นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความคืบหน้า 2 ข้อเสนอที่ได้อภิปรายไว้ในการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญวานนี้ให้มีการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ จากตัวแทน 7 ฝ่ายมาร่วมกันหาทางออกให้กับประเทศว่า เท่าที่ได้ติดตามและพูดคุยกับฝ่ายต่างๆ แล้วถือว่ามีสัญญาณที่ดี มีเสียงตอบรับที่เป็นที่ยอมรับพอสมควร
อย่างน้อยที่สุดในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลก็ได้พูดคุยกับพรรคพลังประชารัฐ และพรรคชาติไทยพัฒนา รวมทั้งพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ ก็มีสัญญาณตอบรับ และวันนี้ก็ได้รับแจ้งว่าวิปจะได้มีการหารือกัน จึงเสนอให้วิปทั้ง 3 ฝ่ายได้พูดคุยกัน เพราะมติหรือความเห็นร่วมที่จะออกมาได้นั้นก็ควรจะต้องมีการพูดคุยกัน ซึ่งถือว่าเป็นต้นแบบที่จะนำให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความราบรื่น
"หากรัฐสภามีความเห็นร่วมกัน ก็เชื่อว่าท่านประธานรัฐสภาก็คงกรุณาไปดำเนินการในการออกคำสั่ง หรือในส่วนของการกำหนดรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อให้รัฐสภาได้เป็นที่พึ่งและเป็นกลไกสำคัญในระบอบประชาธิปไตย ให้ประชาชนได้เห็นว่าสามารถที่จะร่วมกันหาทางออกให้กับประเทศได้"หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
ส่วนเรื่องที่ 2 คือเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ได้เสนอไปเมื่อวาน วิป 3 ฝ่ายควรจะได้ไปหารือกันว่าจะนำร่างรัฐธรรมนูญทั้ง 6 ร่างที่ค้างอยู่ในสภามาพิจารณาก่อน หรือจะรอร่างฉบับประชาชนของ iLaw แล้วค่อยนำมาพิจารณารวมกันเป็น 6+1 เป็น 7 ร่างนั้น ก็ได้รับแจ้งจากผู้ที่เกี่ยวข้องว่าจะได้มีการนัดหมายพูดคุยกัน
เหตุผลที่จำเป็นต้องคุยกันก็เพราะว่าจะได้เห็นพ้องไปในทางเดียวกัน เมื่อได้มีการตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งว่าจะนำ 6 ร่างมาก่อน แล้วเอาร่าง iLaw ทีหลัง หรือว่าจะนำมารวมกันทีเดียว เพราะหากนำมารวมกันก็คงจะต้องรอหลังวันที่ 12 พ.ย. เพราะต้องรอขั้นตอนกระบวนการก่อนที่จะบรรจุระเบียบวาระ ซึ่งหากหารือร่วมกันทุกฝ่ายและเห็นพ้องกันทุกอย่างจะได้ราบรื่น
"การแก้ไขรัฐธรรมนูญถือเป็นเรื่องสำคัญและเป็นหนึ่งในทางออกประเทศที่ผมคิดว่ามาจนถึงนาทีนี้หลายฝ่ายก็เห็นพ้องกันแล้วว่าควรจะได้ดำเนินการต่อไป แต่เมื่อดำเนินการแล้วควรจะราบรื่น ไม่ควรมามีข้อโต้แย้งโดยไม่จำเป็นอีก เพราะฉะนั้นการหารือจึงเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งขณะนี้ก็ได้รับทราบว่าวิปก็จะได้มีการพูดคุยกัน" นายจุรินทร์ กล่าว