อัยการมีคำสั่งฟ้องนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า, นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และนางสาวพรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า รวมทั้งนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และนายไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ จ.นครปฐม ร่วมกระทำผิด พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 จากเหตุการณ์ชุมนุมแฟลชม็อบบริเวณสกายวอล์กสี่แยกปทุมวัน เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.62 ขณะที่ศาลแขวงปทุมวันอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาทั้ง 5 รายแล้ว
นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ตัวแทนทนายความผู้ต้องหาทั้งหมด กล่าวว่า อัยการได้ยื่นฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย ในหลายข้อหา ตามพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ อาทิ ไม่แจ้งเจ้าพนักงาน มีการชุมนุมเขตพระราชฐานใกล้วังสระปทุม ไม่เกิน 150 เมตร ขัดขวางการคมนาคมรถไฟฟ้าบีเอส ใช้เครื่องเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก โดยทั้ง 5 ให้การปฎิเสธ ขณะที่ศาลอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว โดยไม่ต้องมีหลักประกัน และนัดตรวจพยานหลักฐานวันที่ 22 ธ.ค.63 เวลา 10.00 น.
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวว่า สิ่งที่เกิดกับตน และนายธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ ส.ส.พรรคก้าวไกล ซึ่งเป็น อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ รวมทั้งนิสิต นักศึกษา นักเรียน ประชาชนที่ออกมาเรียกร้องความถูกต้อง เรียกร้องประชาธิปไตย ความเป็นธรรมในสังคม คือ นิติสงคราม เป็นการใช้กฎหมายมาทำให้หวาดกลัวเพื่อไม่ให้ลุกขึ้นต่อสู้กับความอยุติธรรมในสังคม
แต่ความคิดที่ว่าหากจับแกนนำเข้าคุกได้เรื่องจะจบนั้น เป็นการคิดที่ผิด เพราะตั้งโจทย์ผิด โจทย์ที่ตั้งอยู่บนสมมติฐานว่าพวกเราอยู่เบื้องหลังการชุมนุมของนักศึกษา เป็นคนยุยงปลุกปั่นนักศึกษา เมื่อตั้งโจทย์แบบนี้ วิธีการแก้ปัญหาเอาคนที่อยู่เบื้องหลัง เอาคนที่เป็นแกนนำข้างหลังออกไปให้หมด เข้าคุกให้หมดทุกอย่างจะกลับมาเหมือนเดิม ซึ่งไม่ใช่
"โจทย์มันผิด พวกเขาที่อยู่ข้างนอกเคลื่อนไหวด้วยเจตนารมอันเป็นเสรี ไม่มีผม พิธา ปิยบุตร พรรณิการ์ พวกเขาก็ต่อสู้ต่อ เรียกร้องสิ่งที่ถูกต้องต่อ พอตั้งโจทย์ผิด เข้าใจปัญหาสังคมผิด ก็นำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่ผิด การจับพวกเราและแกนนำคนอื่นๆ เข้าคุก ไม่ทำให้ปัญหาจบ มีแต่จะยิ่งทำให้ความโกรธแค้นของประชาชนบานปลายไป"นายธนาธร กล่าว