พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการดำเนินคดีกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณด้านหน้าสถานทูตเยอรมนีว่า จากที่ได้รับรายงานจาก สน.ทุ่งมหาเมฆ เบื้องต้นน่าจะมี 5-6 ราย ซึ่งจะมีการดำเนินการดำเนินคดีตามขั้นตอนในการรวบรวมพยานหลักฐาน และออกหมายเรียกตามลำดับต่อไป
"ยืนยันว่า เป็นการดำเนินตามกฎหมาย ไม่ได้ 2 มาตรฐาน...ทางพนักงานสอบสวนขอดูให้ชัดเจนก่อน น่าจะมีการกระทำสุ่มเสี่ยงฝ่าฝืนบทบัญญัติ บริเวณด้านหน้าสถานทูต นอกเหนือจากความผิดจราจร เป็นความผิดในเรื่องของทำให้เกิดความปั่นป่วน กระด้างกระเดื่อง เชิญชวนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน"
รองโฆษก กล่าวว่า ในการดำเนินการไม่ว่าจะกลุ่มใด หากไม่มีการแจ้งว่าจะมีกาจัดการชุมนุมจะถือว่าเป็นการกระทำความผิดแน่นอน และแม้จะแจ้งแล้ว แต่หากในระหว่างที่ชุมนุมมีการทำผิดกฎหมายอื่น หรือผิดเงื่อนไข ก็ต้องมีการดำเนินการเช่นกัน
"กลุ่มที่ออกมาชุมนุมไม่ว่าจะเป็นใคร หากได้แจ้งก่อนก็รอดมา 1 ส่วน แม้จะแจ้ง แต่หากทำผิดก็ต้องว่าตามขั้นตอน ส่วนถ้าไม่แจ้งตั้งแต่ต้นก็ผิดตั้งแต่ต้น"พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าว
ส่วนการก่อเหตุทะเลาะวิวาทหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ทางสน.หัวหมาก ได้ตั้งคณะสืบสวนสอบสวนจริงจัง โดยมีผู้เสียหายอย่างน้อย 5 ราย สอบปากคำไปแล้วกว่า 10 ปาก กำลังพิจารณาว่าจะแจ้งข้อหาใดกับใคร โดยยึดหลักนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์เป็นหลัก
สำหรับการชุมนุมในช่วงเย็นวันนี้ มีการกำหนดตั้งแต่ 4 โมงเป็นต้นไป แต่มีการรวมตัวประปรายเป็นบางจุด สำหรับจุดที่ได้รับแจ้งจัดการชุมนุม คือหน้าสกายวอล์คบริเวณแยกปทุมวัน แต่ที่อื่นยังไม่มีการแจ้ง พร้อมย้ำว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการจัดตัวแทนไปเจรจาโดยตลอด ไม่ได้มุ่งบังคับใช้กฎหมาย เน้นการเจรจามาตั้งแต่ต้นทุกขั้นตอน ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์สุดวิสัย เข้าใจผิด หรือทะเลาะวิวาท โดยอยากฝากว่าการออกมาแสดงความคิดเห็น ควรดำเนินการตามกรอบกฎหมาย