นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญในวาระรับหลักการว่า หากพิจารณาโดยไม่รอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับภาคประชาชน หรือฉบับของ iLaw ก็สามารถบรรจุวาระการประชุมได้เลย เพราะรายงานของคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมก่อนรับหลักการเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่หากรอร่างฉบับของ iLaw ก็สามารถบรรจุในวาระการประชุมได้หลังวันที่ 12 พ.ย.63 คาดว่าน่าจะพิจารณาได้ประมาณวันที่ 17-18 พ.ย.63
ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า หากมีปัญหาอาจจะล่าช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อย และเมื่อพิจารณาแล้วอาจจะใช้เวลาครึ่งวันในการรับทราบรายงานของ กมธ.หลังจากนั้นก็จะสามารถโหวตได้
แต่หากรอร่างของ iLaw จะเสียเวลาอีกเพียง 1 สัปดาห์ก็จะมีโอกาสพิจารณาพร้อมกันทั้ง 3 ร่างที่มีเนื้อหาคล้ายกันคือร่างของรัฐบาล ร่างของฝ่ายค้าน และร่างของ iLaw ที่เสนอให้แก้ไขมาตรา 256 โดยให้มีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) โดยใช้ร่างของรัฐบาลเป็นหลัก
ส่วนท่าทีของ ส.ว.สัญญาณเริ่มดีขึ้นจากการประชุมร่วมรัฐสภาเมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา ดังนั้น จึงอยู่ที่การลงมติว่าจะออกมาอย่างไร โดยการดำเนินการดังกล่าวไม่ได้ทำตามข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุม แต่เป็นไปตามระบบขั้นตอนที่สภาฯ ได้กำหนดไว้
สำหรับรูปแบบ ส.ส.ร.ในรายงานของ กมธ.ได้มีการพูดคุยกันมากว่าควรใช้ร่างของรัฐบาลเป็นหลัก โดยให้มาจากการเลือกตั้ง ใช้เขตจังหวัดจำนวน 150 คน และส่วนอื่นให้เป็นไปตามองค์ประกอบที่กำหนดไว้
ประธานวิปรัฐบาล ยอมรับว่า ข้อเสนอเรื่อง ส.ส.ร.ของรัฐบาลไม่สอดคล้องกับร่างของฝ่ายค้านและ iLaw ไม่เช่นนั้นคงไม่ต้องเดินขบวน ความเห็นต่างกันแต่ไม่แตกแยก อะไรที่คิดว่าจะแก้ไขก็ไปทำในวาระที่ 2 ได้ ถ้าจำนวนและที่มาของ ส.ส.ร.ไม่ตรงกันก็ไปแก้ไขในวาระ 2 ได้ ซึ่งอาจจะเห็นด้วยกับรัฐบาลหรือผสมผสานกันก็ได้