นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า กระทรวงฯ ในฐานะผู้แจ้งความกรณี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในความผิดฐานรุกล้ำที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี จ.ราชบุรี พร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังจากพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) สั่งฟ้องน.ส.ปารีณา 4 ข้อหา
ทั้งนี้ กรมป่าไม้ร้องทุกข์แจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.ปารีณาได้นำส่งพยานหลักฐานให้กับฝ่ายสืบสวนทั้งหมดแล้ว และหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ทางกระทรวงฯ พร้อมที่จะให้ความร่วมมือทุกด้าน แต่ขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียดหรือการขอข้อมูลมาเพิ่มเติม
วานนี้ พนักงานสอบสวน บก.ปทส.สรุปสำนวนคดี น.ส.ปารีณา กรณีครอบครองที่ดินใน ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี โดยตรวจทานรายละเอียดสำนวนคดีแล้วจึงมีความเห็นให้ส่งสำนวนคดีไปให้พนักงานอัยการ จ.ราชบุรี สั่งฟ้องคดี โดยสำนวนมีกว่า 2,408 หน้า และได้สอบปากคำพยานเพิ่มเติมตาม 3 ปากเป็นเจ้าของที่ดินข้างเคียง ขณะที่ น.ส.ปารีณา ได้แจ้งนัดหมายมาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 5 พ.ย.10.00 น.
จากการรวบรวมพยานหลักฐานพบว่า น.ส.ปารีณา เข้าข่ายการกระทำความผิด ใน 4 ข้อหา ประกอบไปด้วย มาตรา 14 ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติฯ, มาตรา 31 ตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ฯ ฐานร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถางหรือเผาป่าฯ ความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน ฐานร่วมกันเข้าไปยึดถือ ครอบครอง รวมตลอดถึงการก่อสร้างหรือเผาป่า และความผิดตาม พ.ร.บ.น้ำบาดาลฯ ฐานร่วมกันประกอบกิจการน้ำบาดาลโดยไม่ได้รับอนุญาต มีอัตราโทษสูงสุดจำคุก 4-20 ปี ปรับ 200,000-2,000,000 บาท
นอกจากนั้น บก.ปทส. ได้เรียก นายทวี ไกรคุปต์ บิดาของ น.ส.ปารีณา มารับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งเป็นข้อหาเดียวกันกับ น.ส.ปารีณา ในวันที่ 23 พ.ย. หลังถูกร้องเรียนว่าบุกรุกที่ดินรัฐกว่า 1,000 ไร่ บริเวณหมู่ 9 ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี