พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการที่จังหวัดภูเก็ต โดยปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องเกี่ยวกับเรื่องการเมือง แต่ขอตอบเฉพาะเรื่องการลงพื้นที่ครั้งนี้เท่านั้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณประชาชนทั้งในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดภูเก็ต ที่ให้การต้อนรับ และแสดงให้เห็นถึงความสามัคคีและความรักในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทำให้รู้สึกตื้นตันใจกับการแสดงออกดังกล่าว รวมถึงในกรุงเทพฯ ด้วย เพราะทุกคนได้แสดงออกถึงเจตนา ความปรารถนาอันบริสุทธิ์ที่จะทำให้ประเทศชาติมีความปลอดภัย และเชื่อว่าในที่สุดแล้วทุกอย่างก็จะดีขึ้น โดยต้องเริ่มต้นที่ความสงบเรียบร้อย ความถูกต้อง การมีวัฒนธรรม มีอัตลักษณ์ มีประเพณี จะเป็นสิ่งที่ทำให้ประเทศชาติมีความเข้มแข้งต่อไปในอนาคต ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ต้องของฝากกับทุกคนไว้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลรับฟังความเห็นของทุกฝ่าย ทั้งใช้การทำงานตามปกติ รวมถึงการใช้กลไกรัฐสภาในการแก้ปัญหา พร้อมทั้งอาศัยกระบวนการยุติธรรมกับส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยไม่มีการก้าวล่วงซึ่งกันและกัน
สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้ต้องการที่จะให้ประชาชนทั้งประเทศรับรู้ว่า รัฐบาลเอาจริงเอาจังกับการดูแลประชาชนทั้งในด้านสุขภาพ และในด้านเศรษฐกิจต่างๆ ที่ต้องเผชิญปัญหาอยู่ในขณะนี้ควบคู่กัน โดยสิ่งสำคัญคือเป็นการลงมาสร้างความเชื่อมั่นในความพร้อมของทุกมาตรการที่กำหนดไว้
และหากจะเริ่มเปิดประเทศนั้นจะมีแนวทางการดำเนินการในระยะที่ 1 ระยะที่ 2 และระยะที่ 3 เพื่อทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในประเทศเพิ่มมากขึ้นภายใต้มาตรการที่เหมาะสมและเข้มงวด ขณะเดียวกันต้องทำให้ภาคธุรกิจที่ยังมีศักยภาพอยู่สามารถเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนตั้งแต่ระดับฐานราก รวมถึงการมีมาตรการทางการเงินการคลัง เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจต่างๆ ในขณะนี้ให้เป็นไปได้ด้วยดี มีสภาพคล่องและคงการจ้างงานไว้ได้
โดยตลอด 2 วันที่ผ่านมาได้รับทราบปัญหา ข้อขัดข้อง ข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการทั้งในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดฝั่งอันดามัน ซึ่งมีทั้งในเรื่องของการเยียวยา ฟื้นฟู การท่องเที่ยว การยกระดับคุณภาพชีวิต การดูแลทรัพยากรธรรมชาติ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานนั้น รัฐบาลรับทุกข้อเสนอไว้พิจารณาทั้งหมด ซึ่งเรื่องใดทำได้จะดำเนินการทันที เรื่องใดยังติดขัดก็จะพิจารณาอย่างรอบด้านจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ผลประโยชน์ที่จะได้กลับมาสู่ประชาชน อยู่บนหลักทั่วถึงและเป็นธรรม
นอกจากนี้ยังพิจารณาการเตรียมการด้านการท่องเที่ยวทั้งในปัจจุบันและในอนาคต โดยเฉพาะเกาะสมุยและจังหวัดภูเก็ตที่มีรายได้จากภาคท่องเที่ยวและบริการถึงร้อยละ 90 โดยนำเอาสถานการณ์โควิด-19 มาเป็นแบบในการกำหนดยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวในแต่ละจังหวัดให้เหมาะสมรองรับการเปลี่ยนแปลงได้ โดยน้อมนำพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และแนวทางเศษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาเป็นหลัก
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติโครงการตามงบประมาณฟื้นฟูฯไปจำนวนหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ ครม.ได้อนุมัติครบทุกจังหวัด และจะเริ่มพิจารณาโครงการที่ลงไปในระดับพื้นที่อำเภอและตำบลต่อไป โดยรัฐบาลจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด