นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลหารือภายหลังนายเจฟฟรีย์ ควินตัน มิตเชลล์ ดอยจ์ (H.E. Mr. Geoffrey Quinton Mitchell Doidge) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เพื่ออำลาในโอกาสพ้นจากหน้าที่ว่า นายกรัฐมนตรีหวังว่าทั้งสองประเทศจะเพิ่มพูนความร่วมมือและความสัมพันธ์ระหว่างกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี เพื่อประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ
ขณะที่เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ฯ ได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนการทำงานมาโดยตลอด พร้อมทั้งยินดีกับความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับแอฟริกาใต้ ตลอดจนเห็นพ้องว่าทั้งสองฝ่ายควรเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันให้มากขึ้น ทั้งในด้านการค้าการลงทุน การเกษตร และสาธารณสุข นอกจากนี้ยังชื่นชมรัฐบาลที่ดำเนินการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นตัวอย่างที่ดี ซึ่งแอฟริกาใต้พร้อมเรียนรู้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ดังกล่าวกับไทย
โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่า ไทยและแอฟริกาใต้ยังมีศักยภาพที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันได้อีกมาก โดยเฉพาะด้านการค้าการลงทุน ทั้งสองประเทศมีจุดแข็งทางภูมิศาสตร์ที่สามารถเป็นประตูเชื่อมภูมิภาคให้แก่กันและกันได้ ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนให้นักลงทุนจากแอฟริกาใต้เข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ในสาขาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ซึ่งรัฐบาลไทยพร้อมให้การสนับสนุนและอำนวยความสะดวกในการลงทุน ไทยพร้อมสนับสนุนให้นักลงทุนไทยเข้าไปลงทุนในแอฟริกาใต้มากขึ้นเช่นกัน และทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหาในรายละเอียดร่วมกันเพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกันให้มากยิ่งขึ้น