พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) กล่าวถึงการชุมนุมในระยะใกล้มี 3 จุดด้วยกัน ในส่วนจุดวันนี้ ช่วงเวลา 17.00 น. ที่มีการนัดรวมตัวที่บริเวณเอ็มบีเค เซ็นเตอร์ คาดว่าไม่น่าจะมีการเคลื่อนที่ของกลุ่มผู้ชุมนุม กระทบเพียงแค่แยกปทุมวัน
สำหรับเส้นทางที่อาจได้รับผลกระทบและควรหลีกเลี่ยง
- ถนนพระราม 1 (แยกเฉลิมเผ่า-เจริญผล) และ ถนนพญาไท (จุฬา ซอย 12-แยกราชเทวี)
ส่วนเส้นทางที่แนะนำให้ประชาชนไปใช้เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านการจราจร
- ถนนเพชรบุรี ถนนบรรทัดทอง ถนนพระราม 4 ถนนอังรีดูนังต์ และในส่วนของถนนวิทยุ สามารถใช้ได้ตามปกติ
ส่วนอีก 2 จุดในวันเสาร์ที่ 7 พ.ย. มีการนัดรวมตัวแยกสามย่าน คาดว่าอาจมีกิจกรรมเคลื่อนที่ไปที่ถนนสีลม จากบทเรียนที่ผ่านมา คาดว่าน่ากระทบถนนพระราม 4 ทั้งขาเข้า-ขาออก ถ.พญาไท หน้าสามย่านมิตรทาวน์ จามจุรีสแควร์ และอาจกระทบไปจนถึงถนนสี่พระยา หน้าวัดลำโพง ดังนั้น ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทาง โดยเฉพาะกิจกรรมนี้อาจมีการเคลื่อนที่
สำหรับวันอาทิตย์ที่ 8 พ.ย. มีการรวมตัวกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งการข่าวอาจมีการเคลื่อนที่ของผู้ชุมนุม คาดว่าจะเกิดผลกระทบถนนราชดำเนินกลาง แยกคอกวัวไปถึงแยกป้อมเผด็จ ไปจนถึงถนนดินสอ-อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย-แยกวันชาติ แยกคอกวัว ถนนตะนาว ในส่วนฝั่งกทม.และวัดบวร และจุดนี้ถ้ามีการเคลื่อนที่ โดยคาดว่าจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปแยกผ่านฟ้า แยกจปร. ถนนนครสวรรค์
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า การชุมนุมทั้ง 3 แห่งยังไม่มีการแจ้งการจัดชุมนุม ตาม พ.ร.บ.ชุมนุมในที่สาธารณะ
ด้านพล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น กล่าวว่า ในวันอาทิตย์ บช.น.ได้แบ่งพื้นที่สำคัญเป็น 3 ส่วน โซนแรก สนามหลวง พื้นที่โดยรอบ จนถึงสะพานผ่านฟ้า โซนที่ 2 อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมาจนกระทั่งถึงสะพานผ่านฟ้า และ โซนที่ 3 รอบทำเนียบรัฐบาล สะพานมัฆวาน บริเวณแยกจปร.
นอกจากนี้จะมีการชุดเคลื่อนที่เร็วอีก 12 กองร้อย โดยบช.น. ยืนยันว่า มีความมั่นใจในการดูแลรักษาความปลอดภัยได้แน่นอน
สำหรับการดำเนินคดีกลุ่มผู้ชุมนุมที่ผ่านมา พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า กรณีคดีของน.ส.ธิติมา บุตรดี หรือ น้องแบม นักศึกษาวัย 19 ปี ในคดีทำร้ายร่างกาย ทางพนักงานสอบสวน สน.หัวหมากได้รับคำร้องเรียบร้อยแล้ว และได้ออกหมายเรียกไปแล้ว 1 ราย และอยู่ระหว่างเรียกผู้เกี่ยวข้องอีก 9 ราย
ส่วนที่ สน.ท่าพระ กรณีมีบุคคลโยนประทัดยักษ์ในพื้นที่รถไฟฟ้าสถานีท่าพระ ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนหาผู้ดำเนินความผิด
ส่วนคดีที่นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ อดีตพระพุทธอิสระ ร้องทุกข์ดำเนินคดีตามมาตรา 116 ขณะนี้ผู้ต้องหา 3 คน มามอบตัวที่ สน.พญาไท แล้ว
คดีที่ 4 ของสน.ปทุมวัน เป็นคดีชุมนุมบริเวณแยกปทุมวัน ได้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ต้องหา 17 ราย โดยมีการออกหมายเรียกและหมายจับแล้ว 5 ราย ผู้ต้องหาทั้ง 5 รายได้มามอบตัวและจับกุมแล้ว ยังอยู่ระหว่างออกหมายเรียกเพิ่มอีก 5 ราย อยู่ระหว่างสอบสวน ดำเนินคดีอีก 7 ราย
สำหรับกรณีนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน นายภานุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ และนางสาวปนัสยา สิทธิจิระวัฒนกุล หรือ รุ้ง ที่ออกจากโรงพยาบาลแล้ว หากยังมีคดีเหลืออยู่ต้องอายัดตามกฎหมาย แต่เท่าที่ทราบทำการอายัดหมดแล้ว ยกเว้นแต่คดีที่อยู่ในระหว่างดำเนินการ อาจมีหมายเรียก หมายจับตามมา
"เมื่อมีการกระทำความผิด พนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ตำรวจมิอาจหลีกเลี่ยงได้ คดีต้องดำเนินการไปเรื่อยๆ ตามกระบวนการและตามขั้นตอน เมื่อคดีนับ 1 แล้วจะหยุดไม่ได้ ต้องรอทำการสอบสวนเสร็จสิ้นและนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อท่านทำผิดหลายคดี หลายกระทง หลายกรรม หลายวาระ ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ส่วนการอายัดตัวเป็นกระบวนการ ขั้นตอนในการสืบสวนสอบสวนของพนักงาน เป็นระเบียบที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนดไว้ ซึ่งทำเช่นนี้ทุกราย"