กลุ่มราษฎรอ่านแถลงการณ์ "ราษฎรสาส์น"ถึงพระมหากษัตริย์ เพื่อชี้แจงจุดประสงค์ของการชุมนุมเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ซึ่งเป็นหนึ่งใน 3 ข้อเรียกร้องสำคัญของการชุมนุมที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง หลังจากนั้นได้เปิดให้ผู้ชุมนุมได้นำจดหมายที่เขียนถึงกษัตริย์หย่อนลงในกล่องจำลองตู้ไปรษณีย์ที่นำมาตั้งไว้ 4 ตู้ที่วางเรียงอยู่บนถนนบริเวณหน้าศาลหลักเมือง โดยแกนนำประกาศให้ผู้ชุมนุมทยอยแยกย้ายกันเดินทางกลับหลังจากยื่นจดหมายแล้ว
"3 ข้อเรียกร้องของประชาชนคือการประนีประนอมที่สุดแล้วด้วยอำนาจแห่งศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกันของทุกคน"แถลงการณ์ดังกล่าวระบุในช่วงท้าย
เมื่อเวลาประมาณ 19.50 น. กลุ่มมวลชนได้เข้าไปผลักดันรถเมล์ที่จอดขวางอยู่ 4 คันออกจากถนนราชดำเนินในบริเวณหน้าศาลฎีกาแล้ว รวมถึงเจ้าหน้าที่ได้นำรถตู้ตำรวจย้ายออกจากแนวกั้นถัดมา และมีการเก็บรั้วลวดหนามออก เพื่อเปิดทางให้กลุ่มผู้ชุมนุมค่อย ๆ ขยับผ่านแนวกั้นในจุดนี้จนมาถึงบริเวณหน้าศาลหลักเมือง ซึ่งถือว่าเป็นแนวกั้นสุดท้ายก่อนที่จะเข้าสู่พระบรมมหาราชวัง โดยแนวกั้นนี้มีตำรวจควบคุมฝูงชนพร้อมโล่ ยืนเรียงแถวหน้าเป็นกระดาน
ทั้งนี้ ได้มีการส่งตัวแทนกลุ่มราษฎรเข้าเจรจากับตำรวจ โดยในการเจรจานั้น ตำรวจขอให้ผู้ชุมนุมสามารถจัดกิจกรรมยื่นจดหมายใส่ตู้ไปรษณีย์ เพื่อนำส่งสำนักพระราชวังได้แค่ที่บริเวณจุดนี้ คือหน้าศาลหลักเมืองเท่านั้น โดยจะไม่อนุญาตให้เข้าใกล้เขตพระราชฐานได้มากไปกว่านี้ ซึ่งผลเจรจาล่าสุดกลุ่มผู้ชุมนุมยินยอมที่จะไม่เข้าไปยื่นจดหมายที่สำนักพระราชวัง ภายในพระบรมมหาราชวัง
ด้านศูนย์เอราวัณรายงานยืนยันล่าสุดว่า จากเหตุที่เจ้าหน้าที่ฉีดน้ำใส่กลุ่มผู้ชุมนุมเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมานั้น ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ 1 ราย และฝั่งของผู้ชุมนุม 2 ราย หลังจากผู้ชุมนุมเคลื่อนจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยผ่านแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บริเวณหน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์เข้ามาสู่ถนนราชดำเนินในได้แล้ว และมาหยุดอยู่ที่หน้าศาลฎีกา ซึ่งมีการวางแนวกั้นอีกชั้นโดยใช้รถเมล์ ขสมก.จอดขวางถนนอยู่ 3 คัน และมีรั้วลวดหนามหีบเพลง และรถตู้ตำรวจเป็นแนวกั้นอีกชั้น ซึ่งจุดนี้อยู่ห่างจากพระบรมมหาราชวังประมาณ 150 เมตร
โดยเมื่อเวลาประมาณ 18.30 น. กลุ่มผู้ชุมนุมพยายามเจรจาขอให้ตำรวจขยับรถเมล์ออก เพื่อเปิดช่องให้มีพื้นที่ในการเจรจาได้ ซึ่งเมื่อมีการขยับรถเมล์เพื่อเปิดช่องแล้ว ผู้ชุมนุมได้พยายามจะฝ่าแนวกั้นและรื้อลวดหนามเข้าไป จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้รถฉีดน้ำใส่กลุ่มผู้ชุมนุม แต่ครั้งนี้เป็นน้ำเปล่าไม่ใช่น้ำสีฟ้าเหมือนเช่นครั้งการชุมนุมที่แยกปทุมวัน ทำให้ผู้ชุมนุมมีการขว้างปาขวดน้ำเข้าไปทางฝั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต่อมาเหตุการณ์ได้คลี่คลายความตึงเครียดเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศว่าการฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุมเป็นความผิดพลาด และจะไม่มีการฉีดน้ำเข้าใส่อีก จนกระทั่งการชุมนุมดำเนินไปจนจบขั้นตอนการส่งจดหมายดังกล่าว