นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกรณีที่วุฒิสมาชิก (ส.ว.) เข้าชื่อเพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะอาจทำให้ขั้นตอนการแก้ไขรัฐธรรมนูญล่าช้าออกไปอีก และตามรัฐธรรมนูญสมาชิกรัฐสภาสามารถใช้สิทธิเข้าชื่อกันได้หลังจากผ่านวาระสามไปแล้วซึ่งก็เป็นหลักการตรวจสอบปกติ จึงควรใช้ขั้นตอนตามหลักการปกติมากกว่า
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นความเห็นของพรรคก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่หากมีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญก็เป็นดุลพินิจของศาลรัฐธรรมนูญที่จะพิจารณาวินิจฉัย ไม่อาจก้าวล่วงอำนาจศาลได้
สำหรับตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ อยากเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใจเย็นๆ ช่วยกันคิดช่วยกันทำเพื่อหาทางออกจะดีกว่า การรอดูและสะท้อนผ่านโครงสร้างของคณะกรรมการฯ แล้วจึงมาดูตัวบุคคลควบคู่กันไปจะดีกว่า รายชื่อที่ปรากฏออกมาว่าใครจะเป็นคณะกรรมการ สมานฉันท์ ก็ยังไม่ชัดเพราะต้องรอโครงสร้างก่อน ตัวบุคคลก็ควรแยกออกจากกัน ไม่ว่าความคิดเห็นส่วนตนของใครจะเป็นอย่างไรแต่ความคิดเห็นเพื่อประโยชน์ของประเทศจะสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด
นายราเมศ กล่าวว่า การแก้รัฐธรรมนูญกับการดำเนินการเรื่องคณะกรรมการสมานฉันท์ควรทำควบคู่กันไป เชื่อว่าความจริงใจของทุกฝ่ายสำคัญที่สุด ที่จะทำให้ปัญหาต่างๆคลี่คลายลงไปได้