นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) วันพรุ่งนี้ จะมีการพิจารณาเรื่องต่ออายุ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าการพิจารณาต่ออายุพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่ได้เป็นเหตุผลมาจากประเด็นทางการเมือง แต่เพื่อต้องการดูแลความปลอดภัยในด้านสาธารณสุขให้แก่ประชาชน
"มาตรการควบคุมและอำนวยความสะดวกด้านสาธารณสุขที่ผ่านมา เห็นว่าการต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในแต่ละครั้ง ก็เพื่อประโยชน์ในการดูแลประชาชน และอำนวยความสะดวกในเรื่องของสาธารณสุข ไม่ได้มีประเด็นการเมือง จะเห็นว่าในปัจจุบันที่มีพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็ยังมีการชุมนุมทางการเมืองอยู่" นายอนุชากล่าว
ส่วนที่มีการคาดการณ์ว่าจะมีการต่ออายุ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินมากกว่า 30 วันนั้น นายอนุชา กล่าวว่า อาจจะเป็นได้ว่าเป็นการดำเนินการเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องครอบคลุมไปถึงช่วงวันหยุดปีใหม่ ซึ่งเป็นช่วงที่ประชาชนมีการเดินทางกันมาก
"แทนที่รัฐบาลจะประกาศหลัง 30 วันไปแล้ว ก็อาจจะประกาศดำเนินการ เพื่อให้ผ่านพ้นช่วงปีใหม่ไปด้วยเลย จึงอาจเป็นเหตุผลในการต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไปมากกว่า 30 วัน เป็น 45 วัน แต่นี่เป็นแค่การคาดการณ์ของสื่อ ซึ่งนายกฯ บอกว่า หากจะมีการต่ออายุจริง ก็คงเป็นเพราะเหตุผลแบบนี้ และจะมีการพิจารณาในที่ประชุม ศบค.อีกครั้งวันพรุ่งนี้เช้า" โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว
สำหรับการพิจารณาลดระยะวันกักตัวของผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศเหลือ 10 วัน จากปัจจุบัน 14 วันนั้น นายอนุชา กล่าวว่า จะได้มีการพิจารณาร่วมกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในที่ประชุม ศบค.พรุ่งนี้ด้วยเช่นกัน