รายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนของพื้นที่ต่างๆ ได้ออกหมายเรียก 12 แกนนำม็อบราษฎร ให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ประกอบด้วย
1.นายพริษฐ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน มี 8 คดี ที่ สภ.ขอนแก่น คดีอาญาเลขที่ 2839/2563 ที่สภ.พระนครศรีอยุธยา คดีอาญาเลขที่ 894/2563 ที่สภ.เมื่องอุบลราชธานี คดีอาญาเลขที่ 7805/2563 ที่สภ.เมืองร้อยเอ็ด คดีอาญาเลขที่ 1127/2563 ที่สภ.เมืองนนทบุรี คดีอาญาเลขที่ 1454/2563 ที่ สน.ชนะสงคราม คดีอาญาเลขที่ 430/2563 และ คดีอาญาเลขที่ 485/2573 ที่ บก.ปอท.พนักงานสอบสวนยังไม่รับคดี
2. นส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง มี 6 คดี ที่ สภ.คลองหลวง คดีอาญาเลขที่ 2013/2563 ที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา คดีอาญาเลขที่ 894/2563 ที่ สภ.เมืองนนทบุรี คดีอาญาเลขที่ 1454/2563 ที่ สน.ชนะสงคราม คดีอาญาเลขที่ 430/2563 ที่ สน.บางโพ คดีอาญาเลขที่ 222/2563 ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ คดีอาญาเลขที่ 731 /2563
3. นายภาณุพงค์ จาดนอก หรือไมค์ มี 4 คดี มีที่ สภ.คลองหลวง คดีอาญาเลขที่ 2013/2563 ที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา คดีอาญาเลขที่ 894/2563 ที่ สภ.เมืองนนทบุรี คดีอาญาเลขที่ 1454/2563 ที่ สน.ชนะสงคราม คดีอาญาเลขที่ 430/2563
4.นายอานนท์ นำภา มี 4 คดี ที่ สน.ชนะสงคราม คดีอาญาเลขที่ 379/2563 ที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ คดีอาญาเลขที่ 1113/2563 ที่ สภ.คลองหลวง คดีอาญาเลขที่ 2013/2563 ที่ บก.ปอท. ยังไม่รับคดี
5.น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ มายด์ มี 3 คดี มีที่ สน.บางโพ คดีอาญาเลขที่ 222/2563 ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ คดีอาญาเลขที่ 731/2563 ที่ สน.ยานนาวา คดีอาญาเลขที่ 602/2563
6. นายชนินทร์ วงษ์ศรี มี 2 คดี มีที่ สน.บางโพ คดีอาญาเลขที่ 222/2563 ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ คดีอาญาเลขที่ 731/2563
7.น.ส.จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ มี 1 คดี มีที่ สน.บางโพ คดีอาญาเลขที่ 222/2563
8.นายปิยรัฐ จงเทพ มี 1 คดี ที่ สภ.เมืองอุบลราชธานี คดีอาญาเลขที่ 3805/2563
9.นายทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี มี 1 คดี ที่ สน.บางโพ คดีอาญาเลขที่ 222/2563
10.นายอรรถพล บัวพัฒน์ มี 1 คดี ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ คดีอาญาเลขที่ 731/2563
11.นายชูเกียรติ แสงวงศ์ มี 1 คดี ที่ สน.ท่าพระ คดีอาญาเลขที่ 184/2563
12.นายสมบัติ ทองย้อย มี 1 คดีที่ สน. ทุ่งมหาเมฆ คดีอาญาเลขที่ 731 /2563
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนของแต่ละที่ได้ขออนุมัติหมายจับจากศาล เขตพื้นที่รับผิดชอบต่างๆ แต่ปรากฏว่าศาลไม่อนุมัติหมายจับ โดยให้เหตุว่าผู้ต้องหาเป็นบุคคลสาธารณะและส่วนใหญ่เป็นนักศึกษามีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง จึงให้ออกหมายเรียกแทนในขณะเดียวกันพนักงานสอบสวน ของแต่ละพื้นที่กำลังจะแจ้งข้อหาเพื่อดำเนินคดี ในฐานความผิด ตาม มาตรา 112 อีก 3-5 ราย
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบช.น.) ในฐานะโฆษก บช.น. กล่าวว่า การออกหมายเรียกแกนนำเป็นไปตามกฎหมาย พนักงานสอบสวนไม่สามารถหลีกเลี่ยงเป็นอย่างอื่นได้ เพราะการกระทำเป็นเครื่องชี้เจตนา หากเข้าองค์ประกอบบทบัญญัติข้อนี้ก็ต้องตั้งข้อหาตามนั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้
อย่างไรก็ตาม เพื่อความรอบคอบ ทาง สตช.ได้ให้ทุกกองบัญชาการตั้งคณะกรรมการในการพิจารณา มาตรา 112 ซึ่งจะเป็นคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในระดับกองบัญชาการแต่ละกองบัญชาการ โดยให้พิจารณาใน 3 แนวทาง คือ 1.ดูความชัดเจน 2.ดูความเป็นธรรม และ 3. ดูความเหมาะสม
"ยืนยันว่าไม่มีการกลั่นแกล้ง ใช้ 112 ไปในทางกลั่นแกล้งผู้หนึ่งผู้ใด"พล.ตต.ปิยะ กล่าว