พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวด้วยว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ผู้ชุมนุมนัดไปชุมนุมที่บริเวณหน้าสถานทูตกัมพูชา เพื่อต้องการไปเรียกร้องกรณีการหายตัวไปของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักกิจกรรมการเมืองที่หายตัวไปจากบ้านพักในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ซึ่งการชุมนุมบ่ายนี้ คงต้องพิจารณาว่าจะเข้าข่ายเป็นการชุมนุมสาธารณะที่จะต้องมีการแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบก่อนล่วงหน้าหรือไม่
อย่างไรก็ดี ขณะนี้สถานทูตกัมพูชา ยังไม่ได้มีการประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูแลเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งเป็นเพียงการดูแลความปลอดภัยจากตำรวจท้องที่ และตำรวจสันติบาลเป็นปกติอยู่แล้ว
พร้อมย้ำว่า ในการชุมนุมเป็นสิทธิตามกฎหมายที่สามารถกระทำได้ แต่แกนนำควรต้องแจ้งการชุมนุมล่วงหน้า เพื่อจะได้มีการวางมาตรการดูแลรักษาความเรียบร้อยร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ และไม่กระทบสิทธิของผู้อื่น แต่หากไม่แจ้งการชุมนุม แล้วสุดท้ายเป็นการชุมนุมที่ไม่สามารถควบคุมดูแลได้ สุดท้ายก็ต้องมีการแจ้งความดำเนินคดีกันอย่างที่ผ่านมา
"การชุมนุมเป็นสิทธิของท่าน โดยเฉพาะแกนนำ หรือผู้ชักชวน สิ่งที่ต้องควรทำคือการดำเนินตามกฎหมาย ด้วยการแจ้งการชุมนุมก่อน หลังจากนั้นต้องไปดูว่าเมื่อแจ้งแล้ว จะวางมาตรการร่วมกันอย่างไร นี่เป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่รัฐอยากให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำเนินการที่ไม่กระทบสิทธิ การจราจรต่างๆ...แต่การที่ไม่แจ้งการชุมนุม แล้วเป็นการชุมนุมที่ไม่สามารถควบคุมได้ สุดท้ายก็จะมาไล่ดำเนินคดีอย่างที่เห็น เราจะดำเนินการอย่างไม่มีสองมาตรฐาน เราทำไปตามข้อเท็จจริง เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน" พ.ต.อ.กฤษณะกล่าว