แกนนำกลุ่มสมานฉันท์ ยังไม่ขอตัดสินใจในขณะนี้ว่าจะไปรวมกลุ่มทางการเมืองกับกลุ่มหรือพรรคใด แต่คาดว่าจะได้ข้อสรุปทั้งหมดภายในสิ้นเดือนนี้ทั้งแนวทางการจัดตั้งพรรค ชื่อพรรค และหัวหน้าพรรค พร้อมออกตัวว่ากลุ่มสมานฉันท์ไม่ได้คิดเป็นศัตรูกับใคร แต่อุดมการณ์ทางการเมืองของกลุ่มคือไม่ทำการเมืองแบบเผชิญหน้า ยึดประโยชน์ของบ้านเมืองมาก่อน
"เราคิดว่าแนวทางของเราชัดเจน เราจะยุติความแตกแยกแต่จะไม่ร่วมมือกับคนที่สร้างความแตกแยก คือต้องรวมกันด้วยพื้นฐานนี้ก่อน ถ้าจุดรวมไม่มีพื้นฐานอะไร เพียงแค่เอาตัวรอดให้ได้เกิดทางการเมืองหรือให้ได้ตัวเลขตั้งรัฐบาล การเมืองก็เจ๊ง กลับไปรูปแบบเดิม ดังนั้นต้องให้พื้นฐานชัดเจน เวลาอยู่ด้วยกันจะได้ in เพราะแนวคิดเหมือนกัน" นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำกลุ่มสมานฉันท์ กล่าวในรายการวิทยุ
นายสุวัจน์ กล่าวว่า กลุ่มสมานฉันท์วางยุทธศาสตร์ทางการเมืองไว้ด้วยการเป็นพรรคขนาดกลางที่มี ส.ส.ประมาณ 50 ที่นั่ง ซึ่งอยู่ในระดับใกล้เคียงกับพรรคชาติไทย ในขณะที่เชื่อว่าพรรคพลังประชาชนจะได้ ส.ส.มากกว่า 100 ที่นั่ง เช่นเดียวกับขั้วของพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย และพรรคมหาชน แต่มีแนวโน้มว่าจะไม่มีขั้วการเมืองไหนได้เสียงในสภาฯ เกินครึ่ง ดังนั้นคงต้องอาศัยเสียงจากพรรคการเมืองที่เกิดใหม่เข้าไปสนับสนุนเพื่อจัดตั้งรัฐบาล
"ดังนั้นขึ้นกับอนาคตว่าพรรคแกนนำทั้ง 2 ขาดเสียง 50 เสียง ก็ต้องมาอาศัยเสียงจากพรรคขนาดกลาง ดังนั้นถ้าพรรคที่เกิดขึ้นใหม่มีศักยภาพเพียงพอหรือเกาะกันแน่นเป็นแนวร่วมชัดเจน เราจะมีภาพตัวแปรที่เข้มแข็ง แต่ถ้าต่างคนต่างอยู่ มันก็เป็นเรื่องที่ 2 แกนนำจะเลือกคุยกับใครมันก็มีเปอร์เซ็นต์เสี่ยงอยู่เหมือนกัน" นายสุวัจน์ กล่าว
พร้อมกันนี้ยังมองว่ากลุ่มการเมืองใหม่ เช่น รวมใจไทย, มัฌชิมา, สมานฉันท์ หากในอนาคตรวมกันเป็นพรรคการเมืองขนาดกลาง ก็มีโอกาสได้ประมาณ 150 ที่นั่ง ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการรวมกันเป็นพรรคการเมืองหรือเป็นเพียงแนวร่วมทางการเมืองก็ถือว่ามีบทบาทมากพอสมควร
"พรรคกลางๆ รวมกันอย่างไรก็ใกล้เคียง 150 แต่กลุ่มพวกนี้จะรวมกันได้ไหม คือรวมกันภายใต้พรรคเดียวกัน หรือรวมกันเป็นแนวร่วม แต่ตัวเลข 100-150 อยู่ที่กลุ่มนี้แน่ เพราะฉะนั้นปัจจัยทางการเมืองในอนาคตกลุ่มนี้จะมีบทบาทพอสมควร" นายสุวัจน์ กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--