นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ เดินทางมาเข้าพบพนักงานสอบสวนที่ สน.ลุมพินี เช้าวันนี้ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาฐานร่วมกันชุมนุมโดยไม่แจ้งจัดการชุมนุมและไม่จัดให้มีมาตรการป้องกันโรคอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จากกรณีการชุมนุมที่แยกราชประสงค์เมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา
นายอรรถพล กล่าวว่า ในวันนั้นเพียงเดินผ่านไปในที่ชุมนุมแยกราชประสงค์เพื่อฟังการปราศรัย ก่อนจะมีคนเชิญให้ขึ้นปราศรัยแต่จำหัวข้อไม่ได้ เมื่อถูกหมายเรียกในคดีดังกล่าวก็จะให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ซึ่งจนถึงขณะนี้รวมแล้วมีหมายเรียกและหมายจับในคดีชุมนุมทางการเมืองรวม 5 หมาย โดยวันนี้เป็นหมายเรียกของ สน.ลุมพินี และช่วงบ่ายจะไปรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกในคดี ม.112 ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ หลังจากเคยไปรายงานตัวในหมายเรียกคดี ม.116 ไปแล้วจากการชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมนี และในวันที่ 10 ธ.ค.นี้ จะไปร่วมกิจกรรมที่ จ.มหาสารคาม
ด้านนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน เดินทางเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาเดียวกัน กล่าวว่า พวกตนถูกหมายเรียกฐานไม่แจ้งจัดการชุมนุมและฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยจะให้การปฏิเสธและให้ปากคำเป็นหนังสือต่อตำรวจอีกครั้ง
นายจตุภัทร์ กล่าวถึงเหตุผลที่ไม่แจ้งจัดการชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า หากต้องไปขออนุญาต ตำรวจก็จะรู้ก่อนว่าจะมีชุมนุมที่ไหน ทั้งที่ประเทศไทยก็ไม่ได้มีพื้นที่สาธารณะมาก อีกทั้งยังเคยมีคนขอจัดกิจกรรมแล้วไม่ได้รับอนุญาต หมายความว่าสิทธิของเราขึ้นอยู่กับตำรวจ หากใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือมาจำกัด ไม่มองปัญหาที่พูดถึง ปัญหาและข้อเรียกร้องต่างๆ ก็จะไม่ได้รับการแก้ไข
อีกทั้งในการชุมนุมแต่ละสถานที่ก็ล้วนมีความหมาย เช่น สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ และธนาคารไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่ ก็ทำให้ผู้คนได้รู้ว่าแต่ละสถานที่นั้นมีความหมายอะไร
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่มีใครถอย โดยขอให้ติดตามการชุมนุมในวันที่ 10 ธ.ค.ยืนยันจะไปเข้าร่วมด้วยอย่างแน่นอน เพราะเป็นวันสำคัญทางรัฐธรรมนูญ