คตส.เพิ่ม 2 ประเด็นไต่สวน"ทักษิณ"ร่ำรวยผิดปกติ-ซุกทรัพย์สินนอกประเทศ

          นายสัก กอแสงเรือง โฆษกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.) เปิดเผยว่า คตส.มีมติเพิ่ม 2 ประเด็นการไต่สวน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในการตรวจสอบการกระทำความผิดที่อยู่ในระหว่างการไต่สวนของคตส. คือ ประเด็นความร่ำรวยผิดปกติ และประเด็นการมีทรัพย์สินมากผิดปกติทั้งในและนอกราชอาณาจักร
          นายแก้วสรร อติโพธิ เลขานุการ คตส.กล่าวว่า การเพิ่มประเด็นไต่สวน พ.ต.ท.ทักษิณ อีก 2 ประเด็น ก็เพื่อต้องการให้เห็นถึงการได้ทรัพย์สินมาโดยไม่สมควรจากการใช้อำนาจหน้าที่ โดยจะดูจากหลักฐานการซุกหุ้นหรือใช้อำนาจเพื่อเอื้อประโยชน์แก่ตัวเองและครอบครัว 
          นอกจากนี้ ยังต้องการทราบว่าเหตุใด พ.ต.ท.ทักษิณ จึงมีเงินสำหรับการใช้จ่ายในต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ทั้งการซื้อสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี้ หรือการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ
          แหล่งข่าวจากคตส. กล่าวว่า เหตุที่ต้องเพิ่มประเด็นการไต่สวน พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อต้องการให้เห็นถึงความเกี่ยวโยงกับเงินที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้ซื้อหุ้นสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี้ว่ามีที่มาจากที่ใด ทั้งๆ ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ระบุว่า เงินที่ใช้ซื้อสโมสรฟุตบอลดังกล่าวไม่ได้ถูกโอนย้ายออกจากประเทศไทย ซึ่งหมายความว่า พ.ต.ท.ทักษิณ น่าจะมีเงินจำนวนมากอยู่ภายนอกประเทศและเป็นเงินที่ไม่เคยแจ้งไว้ในบัญชีทรัพย์สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)
          โฆษกคตส. กล่าวว่า คณะอนุกรรมการตรวจสอบกรณีธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย(EXIM BANK)ปล่อยเงินกู้ให้แก่พม่าวงเงิน 4 พันล้านบาท มีมติแจ้งข้อกล่าวหาแก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ฐานดำเนินนโยบายแอบแฝงเพื่อหาประโยชน์ให้กับธุรกิจครอบครัว ถือเป็นความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่และละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้เกิดความเสียหายแก่กระทรวงการคลัง และ EXIM BANK ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152 และ 157 
          ทั้งนี้ คาดว่าคตส.จะสามารถแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ ได้ในสัปดาห์หน้า
          ก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้เสนอเพิ่มวงเงินกู้จาก EXIM BANK เป็น 4,000 ล้านบาท จากเดิม 3,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งของเงินกู้ดังกล่าว รัฐบาลพม่านำมาใช้สำหรับซื้ออุปกรณ์บรอดแบนด์จาก บมจ.ชินแซทเทลไลท์(SATTEL) ประมาณ 596 ล้านบาท
          นายสัก กล่าวว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ สั่งปล่อยกู้เพิ่มอีก 1,000 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าเกือบ 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นความเสียหายที่เกิดกับกระทรวงการคลังในการเข้าไปรับภาระส่วนต่างดอกเบี้ยแทน EXIM BANK 
          ส่วนกรณีการซื้อขายหุ้น บมจ.ชินคอร์ปอเรชั่น(SHIN) นั้น คตส.มีมติจะแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลทั้ง 4 รายภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งได้แก่ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยาอดีตนายกรัฐมนตรี, นายพานทองแท้ ชินวัตร, นางบุษบา ดามาพงศ์, และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน กรณีไม่ให้ความร่วมในการเข้าให้ถ้อยคำตามคำสั่งเรียกของ คตส.ในคดีการซื้อขายหุ้นชินฯ           
          อย่างไรก็ดี กรณีที่คตส.มีคำสั่งอายัดทรัพย์ครอบครัวชินวัตรและดามาพงศ์ไปทั้งหมด 9 ครั้งแล้วนั้น ขณะนี้มีผู้มายื่นคำร้องขอเพิกถอนคำสั่งอายัดทรัพย์แล้ว 3 ราย ประกอบด้วย น.ส.ชิณนิชา วงศ์สวัสดิ์, บริษัท เอสซีออฟฟิศ พลาซ่า และมูลนิธิไทยคม