พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมภา เลขาธิการ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า ได้ร่วมมือกับ 4 หน่วยงาน ประกอบด้วย ผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัด ชุดเคลื่อนที่เร็ว เจ้าหน้าที่รัฐ และประชาชน เพื่อเฝ้าระวังให้การจัดเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่จะมีขึ้นในวันที่ 20 ธ.ค.นี้ เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมและชอบด้วยกฎหมาย
ในส่วนผู้ตรวจการเลือกตั้ง ได้มอบแนวทางให้ขอความร่วมมือผู้นำชุมชนหรือผู้ใหญ่บ้านในการตรวจสอบ เฝ้าระวังในเรื่องการซื้อเสียงหรือการกระทำที่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายการเลือกตั้ง หากพบขอให้แจ้งข้อมูลกับผู้ตรวจการเลือกตั้ง หรือแจ้งประสานให้ชุดเคลื่อนที่เร็ว ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลเกี่ยวกับการเลือกตั้งโดยเฉพาะเข้ามาดำเนินการทันที
นอกจากนี้ยังได้มีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นชุดเคลื่อนที่เร็ว ให้เพียงพอเพื่อทำงานร่วมกับผู้ตรวจการเลือกตั้ง ในการตรวจการกระทำหรือการหาเสียงที่ผิดกฎหมาย การแจกเงินซื้อเสียง การเก็บบัตรประชาชน เป็นต้น ทั้งนี้ ฝากเตือนผู้สมัครทุกคนว่าอย่าทำสิ่งใดที่ผิดกฎหมาย
ขณะที่ชุดเคลื่อนที่เร็ว จะมีหน้าที่ป้องปราม หาข่าว เฝ้าระวัง เผชิญหรือระงับเหตุการณ์การกระทำความผิดกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งในพื้นที่รับผิดชอบ รวมทั้งการตรวจค้น จับกุม ควบคุมผู้กระทำผิดนำส่งพนักงานสืบสวนหรือนำส่งศาลแล้วแต่กรณี โดยมีระยะเวลาปฏิบัติงาน 14 วัน และสามารถรวบรวมและเก็บพยานหลักฐานที่เกิดขึ้นในการกระทำผิดทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว นำไปสู่การนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้
ในส่วนเจ้าหน้าที่ของรัฐ สำนักงานกกต.ได้มีหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทย เพื่อแจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด กำชับไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในการให้การสนับสนุนข้อมูลข่าวสารแก่ผู้ตรวจการเลือกตั้ง และพนักงานของสำนักงานกกต. ในการลงพื้นที่ปฏิบัติหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการแสวงหาข้อมูลการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น
สำหรับในส่วนของภาคประชาชนนั้น นับว่ามีบทบาทสำคัญในการเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองและกระบวนการจัดการเลือกตั้ง และช่วยตรวจสอบการเลือกตั้ง ซึ่งกฎหมายได้ให้ความคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของผู้ที่มีส่วนช่วยสอดส่องการกระทำผิดเกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้ง เชื่อว่าจะทำให้ประชาชน มีความกล้าที่จะเป็นพยานในคดีดังกล่าว
ทั้งนี้ ในการลงพื้นที่ของผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัด และชุดเคลื่อนที่เร็ว สามารถนำหลักการตามกฎหมายใหม่แจ้งให้ประชาชนทราบได้ คือการชี้เบาะแสการกระทำผิด มีสิทธิได้รับเงินรางวัลถึง 1 ล้านบาท โดยผู้แจ้งเบาะแสไม่ต้องอยู่อย่างเกรงกลัว เพราะกฎหมายใหม่ให้อำนาจ กกต. คุ้มครองพยานได้ นอกจากนี้สำหรับผู้ที่เคยกระทำความผิดแต่กลับใจอยากให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ กกต. อาจกันไว้เป็นพยานด้วยเช่นกัน