นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการเลือกตั้งนายกและสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.63 ว่า แม้คะแนนการเลือกตั้งจะยังไม่ปรากฎอย่างเป็นทางการ ในนามของพรรคมีความพึงพอใจ ซึ่งจากการส่งผู้สมัคร 25 จังหวัดทั่วประเทศ ผลการเลือกตั้งถือว่าประสบชัยชนะถึง 40% ใน 9 จังหวัด โดยเฉพาะในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คือ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน อุดรธานี อุบลราชธานี ยโสธร มุกดาหาร และอีก 1 จังหวัดที่พรรคไม่ได้ส่งในนามพรรค แต่อนุญาตให้ใช้โลโก้หาเสียง คือ สกลนคร
ส่วนภาคกลาง ผู้สมัครก็ได้ทำงานเต็มที่ หลายคนเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ พรรคส่งผู้สมัครหลายจังหวัดในภาคกลาง แม้จะไม่ได้รับการเลือกตั้ง แต่ก็พึงพอใจแล้ว เพราะได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี
ด้าน น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรค กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ แม้ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยจะไม่ชนะทั้งหมด แต่ก็ได้สะท้อนให้เห็นว่าความเบ่งบานทางประชาธิปไตยได้เกิดขึ้นแล้ว
ส่วนสถานการณ์การระบาดโควิด-19 รอบที่สองนั้น ทางพรรคฯ มีความกังวลในการคัดกรองแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาอย่างผิดกฎหมาย รวมทั้งมีความห่วงใยในการดูแลสถานการณ์ของ ผอ.ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ที่ไร้ประสิทธิภาพในการจัดการปัญหา ทั้งมิติด้านความมั่นคงและหลักสุขภาพ
"การมีอยู่ของ ศบค.สะท้อนการรวมศูนย์อำนาจ แต่ยังหาผู้รับผิดชอบจากเหตุที่เกิดขึ้นไม่ได้ แรงงานต่างด้าวที่หลบหนี ประเทศเพื่อนบ้าน พม่ามีผู้ติดเชื้อสูงสุด การเฝ้าระวังตามแนวชายแดนเป็นสิ่งสำคัญ ส่วนแรงงานที่หลบหนี ไม่แจ้งลงทะเบียน การติดตาม ตรวจสอบเป็นสิ่งสำคัญ" น.ส.อรุณี กล่าว
พร้อมระบุว่า พรรคฯ เข้าใจในสถานการณ์เป็นอย่างดี และขอให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ อสม. และอยากให้ประชาชนตระหนักในมาตรการป้องกัน แม้รัฐบาลจะการ์ดตกไปบ้าง แต่ประชาชนอย่าการ์ดตก ส่วนการล็อกดาวน์นั้น เป็นห่วงว่าจะกระทบกับเศรษฐกิจในไตรมาส 4 ซึ่งควรจำกัดวงในการล็อกดาวน์ เพื่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจน้อยที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อย่างไม่เป็นทางการนั้น พรรคเพื่อไทยส่งผู้สมัครในนามพรรคทั้งสิ้น 25 คน ได้รับชัยชนะ 9 คน จาก 2 ภูมิภาค คือ ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบด้วย นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร จ.เชียงใหม่, นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ์ จ.ลำพูน, นายนพรัตน์ ถาวงศ์ จ.น่าน, น.ส.ตวงรัตน์ โล่ห์สุนทร จ.ลำปาง, นายอนุวัธ วงศ์วรรณ จ.แพร่, นายวิเชียร ขาวขำ จ.อุดรธานี, นายกานต์ กัลป์ตินันท์ จ.อุบลราชธานี, นายวิเชียร สมวงศ์ จ.ยโสธร และพ.ต.ท.จิตต์ ศรีโยหะ มุกดาธนพงศ์ จ.มุกดาหาร