รายงานข่าว แจ้งว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่อนุญาตเพิ่มคำให้การพยานและเลื่อนการพิจารณาวินิจฉัยกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่าสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายเทพไท เสนพงค์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (4) และมาตรา 96 (2) หรือไม่
กรณีนี้สืบเนื่องจาก กกต. ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายเทพไท เสนพงศ์ มีเหตุสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ โดยศาลรัฐธรรมนูญสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยและรับคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาและบัญชีระบุพยานบุคคลจำนวน 4 ปากของผู้ถูกร้องไว้แล้ว ต่อมาศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุติการไต่สวนและนัดอ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟังในวันพุธที่ 27 มกราคม 2564 เวลา 15.00 นาฬิกา
ต่อมาผู้ถูกร้องยื่นคำร้อง ฉบับลงวันที่ 5 มกราคม 2564 ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้บุคคลที่ผู้ถูกร้องอ้างเป็นพยาน ได้แก่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ และนายคมสัน โพธิ์คง ให้ถ้อยคำเป็นลายลักษณ์อักษต่อศาลรัฐธรรมนูญ และขอให้เลื่อนการพิจารณาวินิจฉัยออกไปจนถึงวันที่ 25 มีนาคม 2564 เพื่อรอฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 8
โดยศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องขอแล้วเห็นว่าได้ดำเนินกระบวนพิจารณาคดีนี้ตามรัฐธรรมนูญและ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 โดยในการพิจารณาคดีเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2563 ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ยุติการไต่สวนแล้ว เนื่องจากคดีเป็นปัญหาข้อกฎหมายและมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิฉัยได้ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าตัวยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 58 วรรคหนึ่ง ไม่มีเหตุที่จะกลับคำสั่งเดิม จึงไม่อนุญาตตามที่ผู้ถูกร้องขอ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 16 ก.ย.63 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องดังกล่าว หลังนายเทพไท เสนพงศ์ ต้องคำพิพากษาของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ลงโทษจำคุก 2 ปี ไม่รอการลงโทษ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี นับแต่วันที่มีคำพิพากษา ในคดีทุจริตเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช พร้อมมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ไว้ชั่วคราวจนกว่าจะมีคำวินิจฉัย