สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส เปิดเผยว่า การที่นายชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นประกาศลาออกจากตำแหน่งจะยิ่งเป็นการสร้างความยุ่งยากให้กับผู้นำญี่ปุ่นคนใหม่ ซึ่งจะต้องดำเนินการตามเป้าหมายของรัฐบาลในการฟื้นฟูยอดเกินดุลงบประมาณประจำปีงบประมาณ 2554
โธมัส เบิร์น รองประธานของมูดีส์ กล่าวในรายงานว่า ข้อมูลล่าสุดระบุว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะเผชิญกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ยากลำบาก ซึ่งการขยายตัวด้านเศรษฐกิจมหภาคของญี่ปุ่นในไตรมาสที่สองปรับตัวลดลงเมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคของญี่ปุ่นร่วงลงอย่างหนักในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นตั้งเป้าที่จะฟื้นฟูงบประมาณของประเทศให้กลับเข้าสู่ภาวะเกินดุลในปีงบประมาณ 2554 ทั้งนี้ดุลบัญชีงบประมาณเบื้องต้นเป็นเงื่อนไขทางการเงินที่รายงานตัวเลขค่าใช้จ่ายซึ่งไม่นับรวมตัวเลขการชำระดอกเบี้ย และการไถ่ถอนต้นทุนของพันธบัตรค้างชำระที่ครอบคลุมรายได้อื่นๆที่ไม่ได้มาจากการออกพันธบัตร
"ตัวเลขหนี้สินภาครัฐของญี่ปุ่นยังคงมีอยู่ในระบบเป็นจำนวนมาก ซึ่งกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะสูงถึง 185% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)ในปี 2550 ซึ่งส่งผลให้นโยบายการเงินของประเทศที่ยังไม่มีความแข็งแกร่งพอที่จะทำให้ธนาคารปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือกำหนดนโยบายอื่นๆที่สร้างความตื่นตระหนกต่อระบบเศรษฐกิจมหภาค" รองประธานมูดี้ส์กล่าว
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--