นายสาธิต ประเสริฐศักดิ์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ฐานะประธานคณะกรรมการตรวจการจ้างโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ พร้อมอาคารประกอบ เปิดเผยถึงการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะผู้ว่าจ้างบมจ. ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) ก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่พร้อมอาคารประกอบ ไม่ต่อสัญญาให้ผู้รับจ้าง ทำให้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 ทาง STEC ต้องจ่ายค่าปรับวันละ 12,280,000 บาท
นายสาธิต ระบุว่า ในสัปดาห์นี้ทางสำนักงานเลขาธิการสภาฯ จะส่งหนังสือไปยังคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ (กจว.) กรมบัญชีกลาง เพื่อขอให้พิจารณากรณีที่ STEC ขอใช้สิทธิให้สำนักงานฯ พิจารณาลดหรืองดค่าปรับ โดย STEC อ้างถึงผลกระทบในหลายประเด็น อาทิ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กระทบต่อการเดินทางของแรงงานจากพื้นที่ จ.นนทบุรี เข้าสู่กทม.กว่า 700 คน
รวมทั้ง การเสนอขอขยายเวลาจัดทำป้ายข้อความที่ใช้ติดตั้งภายในอาคารรัฐสภา เช่น ป้ายหน้าห้องกรรมาธิการ, ป้ายหนีไฟ ที่มีกว่า 4,000 รายการ แต่ได้รับการอนุมัติให้ดำเนินการไปเพียงบางส่วน และยังติดปัญหาการนำเข้าวัสดุจากต่างประเทศ , การปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำ วันละ 300 บาท ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อปี 56 เป็นต้นว่าตามเงื่อนไขและรายละเอียดของกฎหมายสามารถทำได้มากน้อยแค่ไหน
ส่วนระยะเวลาที่ กจว. จะพิจารณานั้นไม่สามารถระบุได้ เพราะเป็นดุลยพินิจของกรรมการ ที่จะนัดประชุมเดือนละ 1 ครั้ง
อย่างไรก็ตาม กรณีไม่ต่อสัญญาดังกล่าว เชื่อว่าจะไม่เป็นปัญหาที่ทำให้ผู้รับจ้างทิ้งงานเนื่องจาก STEC แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าจะดำเนินการก่อสร้างตามสัญญาหลักให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 30 เม.ย.64 อีกทั้ง STEC ถือเป็นบริษัทใหญ่ หากทิ้งงานอาจเกิดความเสียหายต่อธุรกิจในอนาคตได้