"ธีรภัทร์"เผยยึดมั่นในหลักการ ปัดเป็นต้นเหตุพูดกดดัน 3 รมต.ไขก๊อกลาออก

ข่าวการเมือง Wednesday September 26, 2007 10:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า การแสดงความเห็นของตนเองต่อกรณี 3 รัฐมนตรีที่ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทเอกชนเกิน 5% ประกาศลาออกจากตำแหน่งนั้น เป็นไปตามหลักการไม่ได้มุ่งหวังจะให้ร้ายใคร
"เรื่องนี้ต้องไปถามเหตุผล(การลาออก)ของท่าน ผมไม่กล้าก้าวล่วงคนอื่น...ผมเสนอตามหลักการ ไม่ได้มุ่งร้ายต่อใคร ทั้ง 3 ท่านยังรักใคร่กันดี สำหรับพี่อารีย์ก็เป็นรุ่นพี่ผม ไม่มีปัญหาอะไร" นายธีรภัทร์ ชี้แจงต่อผู้สื่อข่าวถึงเหตุผลที่นายอารีย์ วงศ์อารยะ ประกาศลาออกจาก รมว.มหาดไทย เพราะถูกกดดันจากสังคมและการแสดงความเห็นของนายธีรภัทร์
นายธีรภัทร์ ให้ความเห็นส่วนตัวว่า ตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงถือว่ามีความจำเป็น ส่วนการจะให้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) มาเป็นรองนายกฯ และควบตำแหน่ง รมว.มหาดไทย เพื่อคุมการเลือกตั้งด้วยนั้น คงไม่สามารถอธิบายหรือชี้แจงอะไรได้เพราะขณะนี้ยังไม่มีการแต่งตั้งเกิดขึ้น และคนที่จะตอบคำถามพร้อมกับให้เหตุผลที่ดีที่สุดคือนายกรัฐมนตรี
"เรื่องของเหตุผล ต้องมองเป็นเรื่องๆ ต้องไปถามท่านนายกฯ ถ้าจะมีการเสนอแต่งตั้งจริง ท่านนายกฯ เองก็ต้องมีเหตุผลของท่าน" รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุ
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพล.อ.สนธิ มาเป็นรองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงแล้ว จะทำให้กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ(นปก.) จะออกมาชุมนุมเคลื่อนไหวต่อต้านอีกหรือไม่ นายธีรภัทร์ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ไม่ทราบจริงๆ
นายธีรภัทร์ ยังกล่าวถึงการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นว่าในขณะนี้ยังเชื่อว่ายังคงเป็นวันที่ 23 ธ.ค.50 เพราะยังไม่มีปัจจัยหรือตัวแปรใดๆ ที่จะทำให้การเลือกตั้งต้องเลื่อนออกไป
"ตอนนี้คิดว่าค่อนข้างชัดเจนน่าจะเป็นวันที่ 23 ธ.ค. ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่นอีก ถ้าหากเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาก็อาจจะเกิดปัญหาได้" นายธีรภัทร์ กล่าว
พร้อมระบุว่าจากการหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) อย่างไม่เป็นทางการ มีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจะประกาศให้การป้องกันการทุจริตเลือกตั้งและป้องกันการซื้อสิทธิขายเสียงเป็นวาระแห่งชาติ โดยจะขอความร่วมมือจากทุกหน่วยงานทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.), กระทรวงมหาดไทย, สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) และ กกต.ตลอดจนหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ