"มีชัย"คาดสนช.พิจารณากม.ลูกเสร็จทันสิ้นก.ย. สอดคล้องเลือกตั้ง 23 ธ.ค.

ข่าวการเมือง Wednesday September 19, 2007 17:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)เชื่อว่า ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ 3 ฉบับจะพิจารณาเสร็จภายในสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นไปตามกรอบเวลาและอยู่ในวิสัยที่จะจัดการเลือกตั้งในวันที่ 23  ธ.ค.ได้ตามที่นายกรัฐมนตรีประกาศไว้ ส่วนการประกาศอย่างเป็นทางการนั้นต้องรอการหารือของรัฐบาลและคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)อีกครั้ง
ส่วนกรณีที่ตามร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. กำหนดให้เอาผิดกับคนที่รับเงินเพื่อลงสมัครหรือเพื่อไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งการตรวจสอบอาจทำได้ยากนั้น นายมีชัย กล่าวว่า การจับได้ไล่ทันหรือไม่ถือเป็นอีกเรื่อง แต่เดิมก็มีบทบัญญัติห้ามไว้อยู่แล้ว เพียงแต่เขียนไว้ไม่ชัด ดังนั้นการมีข้อกำหนดดังกล่าวไว้จะช่วยให้ กกต.มีเครื่องมือในการทำงานมากขึ้น
"มันเป็นมาตรการหรือเป็นเครื่องมือของ กกต.แทนที่ กกต.รู้แล้วจะนั่งเฉยๆ ก็จะได้มีบทบาทที่จะดูแลให้มันดีขึ้น ก็ให้เครื่องมือ
กกต.ไว้ ส่วนจะทำได้แค่ไหนถือเป็นอีกเรื่อง"นายมีชัย กล่าว
ส่วนผลงานของรัฐบาลและคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.)ครบ 1 ปีนั้น นายมีชัย ปฏิเสธจะแสดงความเห็น แต่กล่าวเพียงว่ารัฐบาลควรจะนำข้อวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ มาไตร่ตรองดูว่าเป็นการวิจารณ์บนพื้นฐานอะไร หากเป็นการวิจารณ์บนพื้นฐานที่ไม่ถูกต้องก็ควรชี้แจง แต่หากวิจารณ์บนพื้นฐานที่ถูกต้องรัฐบาลก็ควรปรับปรุงแก้ไข พร้อมเชื่อว่าเหตุการณ์ปฏิวัติรัฐประหารจะไม่เกิดขึ้นอีก
"ส่วนตัวมั่นใจว่าเหตุการณ์ยึดอำนาจเหมือน 19 ก.ย.2549 ไม่น่าจะเกิดขึ้นอีก เพราะไม่ใช่หนทางที่จะแก้ไขปัญหาบ้านเมืองได้ ต้องเลิกคิดวิธีนี้ เนื่องจากเป็นวิธีการที่ประชาชนไม่ยอมรับ หรือหากยอมรับจะเป็นเพียงชั่วระยะสั้น ๆ ฉะนั้นจะเป็นอุทธาหรณ์ให้ทราบว่าถ้าใครทำก็จะเป็นอันตราย" นายมีชัย กล่าว
ด้าน น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า การเมืองหลังการเลือกตั้งจะดีขึ้นกว่าช่วงก่อนรัฐประหารหรือไม่ขึ้นอยู่ที่ประชาชน แต่ส่วนตัวเชื่อว่าสภาพการเมืองที่เคยเกิดขึ้นก่อนการรัฐประหารไม่ควรเกิดขึ้นอีกแล้ว
ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญเป็นแค่มาตรการที่วางไว้เพื่อป้องกันการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องของนักการเมือง เมื่อกฎหมายเกิดขึ้นแล้ว จึงขึ้นกับว่านักการเมืองและประชาชนในฐานะผู้ใช้กฎหมายจะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างไร รวมถึงกลไกการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ด้วย
"หากกลไกทั้ง 3 อย่างทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะทำให้การเมืองดีขึ้นได้ ส่วนที่จะให้พรรคการเมืองลงสัตยาบันเพื่อไม่ซื้อสิทธิขายเสียง หากทำได้ถือเป็นสิ่งที่ดี แต่ที่สุดแล้วอยู่ที่จิตสำนึกของนักการเมืองและประชาชน"น.ต.ประสงค์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ