รายงานข่าวจากรัฐสภา เปิดเผยว่า เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชนและกลุ่มแรงงานข้ามชาติ ได้เดินทางยื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมาธิการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารัฐสภา
เครือข่ายแรงงานฯ ได้ทวงถามและเรียกร้องให้จ่ายเงินเยียวยาประชาชน 5,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน แบบถ้วนหน้า ตามที่ได้เคยยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี และรมว.แรงงานมาแล้ว เมื่อวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา แต่คณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ไม่ได้หยิบยกเรื่องดังกล่าวมาพิจารณา ทั้งที่มีแรงงานในระบบประกันสังคมตาม ม.33 มากถึง 11 ล้านคน ที่อยู่ในภาวะเสี่ยงจะถูกเลิกจ้างออกจากงาน แต่กลับไม่เคยได้รับการเยียวยา
ขณะเดียวกัน กลุ่มแรงงานข้ามชาติได้ขอให้ผ่อนผันให้แรงงานข้ามชาติที่มีอยู่ 240,000 คน โดยเฉพาะกลุ่มที่จำเป็นต้องต่อวีซ่ารอบสองอีกประมาณ 1.5 ล้านคน โดยผ่อนผันระยะเวลาการขอใบอนุญาต เนื่องจากมีปัญหาที่สถานพยาบาลหลายแห่งระงับการตรวจสุขภาพ ทำให้ไม่สามารถต่อใบอนุญาตได้ทัน เพื่อป้องกันไม่ให้แรงงานที่มีอยู่กลายเป็นแรงงานผิดกฎหมาย
ทางตัวแทนเครือข่ายฯ ระบุว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นยังทำให้ลูกจ้างเสียรายได้จากการถูกลดวันทำงาน ลดค่าจ้างนอกเวลา เป็นเวลาหลายเดือน เช่นเดียวกับกลุ่มแรงงานข้ามชาติที่ถูกนายจ้างเอาเปรียบ ไม่ได้รับสวัสดิการตามที่ควรได้รับ ทำให้สุดท้ายต้องออกจากงาน กลายเป็นแรงงานผิดกฎหมาย
โดยได้เสนอข้อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาเยียวยา 10 ข้อ อาทิ ขยายมาตรการชดเชยรายได้พื้นฐานให้กับประชาชนทุกคน ตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไป รวมถึงแรงงานประเทศเพื่อนบ้าน ปรับปรุงขั้นตอนการเข้าถึงสิทธิ ได้รับเงินชดเชย กระจายรายได้ให้ผู้ค้าปลีกรายย่อยมากกว่าร้านค้าสะดวกซื้อรายใหญ่ ยกเลิกหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) และต้องอุดหนุนช่วยเหลือค่าเช่าสถานที่ที่ถูกสั่งงดกิจการจากมาตรการโควิด-19 โดยเฉพาะผับบาร์ เป็นต้น