พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ยังให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่สหรัฐฯ ถึงกรณีมีกระแสข่าวว่าถูกกดดันและจะลาออกจากตำแหน่งว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น เพราะคงไม่มีอะไรมากดดันการทำงาน การจะลาออกจากตำแหน่งไม่ใช่เรื่องที่จะไปเปรยหรือพูดกับใครเล่นๆ ถือเป็นเรื่องที่มีความอ่อนไหว
"นายกรัฐมนตรีถ้าพูดออกเป็นข่าว ก็เท่ากับว่ามีผลบังคับ ตรงนี้คงพูดไม่ได้ อันนี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะอ่อนไหว เพียงแต่พูดเล่น ๆ ก็เป็นเรื่องจริง นั่นเป็นส่วนที่ผมรู้และไม่ได้พูดเล่นกับใครในเรื่องเหล่านี้ เพราะฉะนั้นก็คงเป็นข่าวลือ" นายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนรัฐมนตรีบางคนที่ได้แถลงข่าวขอลาออกจากตำแหน่งไปแล้วนั้น ในวันที่ 1 ต.ค.จะหารือกันว่าจะดำเนินการอย่างไร รัฐบาลต้องดูว่าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรีอย่างไร โดยจะพิจารณาจากความจำเป็นเรื่องเวลาที่เหลืออยู่ เช่นว่ากระทรวงไหนควรจะมีรัฐมนตรีช่วยว่าการหรือไม่ คงมีการหารือกันในเช้าวันจันทร์นี้และคงจะดำเนินการได้ในวันดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่ากระแสข่าวที่ออกมาเป็นการกดดันนายกรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะรัฐมนตรีหลายกระทรวงมีปัญหาในช่วงปลายรัฐบาล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คิดว่าคงเป็นเรื่องที่อาจจะเกิดจากกรณีที่มีรัฐธรรมนูญใหม่และมีการรื้อฟื้นในเรื่องของมาตราต่างๆ ซึ่งอาจจะตีความได้ทั้งในด้านที่มีผลกระทบและด้านที่ไม่มีผลกระทบ รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่อาจจะมีผล
"คงไม่ได้เป็นเรื่องปัญหาของการทำงาน แต่เป็นปัญหาในเรื่องมารยาททางการเมือง ปัญหาในข้อกฎหมายมากกว่า ในเรื่องการทำงานคิดว่าขณะนี้ไม่มีปัญหาอะไร บางกระทรวงที่มีรัฐมนตรีช่วยอยู่ก็ทำงานได้ หรือบางกระทรวงที่รัฐมนตรีช่วยขอลาออกไป รัฐมนตรีว่าการก็ยังอยู่" นายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนกรณีที่มีกระแสต่อต้านหาก พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) จะเข้ามาเป็นรองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงและอาจจะส่งผลต่อภาพพจน์ของรัฐบาลในการปรับคณะรัฐมนตรีนั้น พล.อ.สุรยุทธ์ เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาถ้าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี เพราะถือว่าเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีที่จะพิจารณา
สำหรับความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ที่ออกมาในขณะนี้เป็นเพราะไม่ต้องการให้มีการเลือกตั้งหรือเกรงว่าอำนาจเก่าจะกลับมานั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ทางการเมืองที่มีมากพอสมควร ถือเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นในช่วงก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง และการเมืองของไทยในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาก็มีปัญหาเรื่องนี้มาตลอด
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวด้วยว่า ในวันนี้จะกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติในเย็นวันนี้เรื่องการเลือกตั้งของไทย ซึ่งถือเป็นความตั้งใจของรัฐบาลที่จะทำให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในเดือนธ.ค.50 รวมถึงเพื่อต้องการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับประเทศด้วย
--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--