นายกฯ มอบสธ.จัดหาวัคซีนโควิดเพิ่มเติม ยันมาตรการเยียวยาครอบคลุมทุกกลุ่ม

ข่าวการเมือง Friday February 5, 2021 18:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวผ่าน PM PODCAST ถึงความคืบหน้าวัคซีนโควิด-19 ว่า รัฐบาลได้ดำเนินการเพื่อให้ได้วัคซีนบางส่วนเร็วขึ้น ในเบื้องต้นคาดจะได้มาก่อนประมาณ 5 หมื่นโดส ฉีดให้แก่บุคลากรด่านหน้า สาธารณสุข บุคลากรในพื้นที่เสี่ยง และขยายไปยังส่วนอื่นๆ

โดยนายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ และมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขไปพิจารณาเพิ่มเติมให้ประเทศไทยได้รับวัคซีนตามแผนงานที่กำหนดไว้ ทั้งในส่วนที่จองไปแล้ว และจัดหาเพิ่มเติมจากประเทศอื่นที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)

นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้จัดทำแผนแจกจ่ายวัคซีนทุกกลุ่มประชาชนตามความเสี่ยง รวมทั้งแผนการขนส่งในพื้นที่ห่างไกล พร้อมย้ำว่าภาคเอกชนสามารถนำเข้าวัคซีนได้โดยจะต้องได้รับการอนุญาตและรับรองจากองค์การอาหารและยาด้วย

ส่วนเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนในช่วงสถานการณ์โควิด-19 มุ่งเน้นการป้องกัน ดูแล ช่วยเหลือ เยียวยา ในทุกด้านอย่างครอบคลุม โดยเฉพาะโครงการ "เราชนะ" ที่จะดูแลผู้ประกอบอาชีพอิสระ หาบเร่ แผงลอย เกษตรกร รวมถึงผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่สามารถดูแลตนเองได้ในช่วงสถานการณ์ดังกล่าว

ขณะเดียวกันในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ที่ผ่านมาได้มีการปรับปรุงเงื่อนไขโครงการ"เราชนะ" ขยายขอบเขตผู้ประกอบการ ร้านค้าหรือบริการที่มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ทั้งร้านธงฟ้า ร้านค้าในโครงการคนละครึ่ง ผู้ประกอบการของกองทุนหมู่บ้าน วิสาหกิจชุมชนที่มีสถานประกอบการเป็นหลักแหล่ง หรือเป็นผู้ให้บริการประเภทรถที่สามารถตรวจสอบได้ รวมถึงผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะที่ไม่ได้เป็นนิติบุคคล และกลุ่มผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะ อีกทั้งได้เห็นชอบในหลักการให้ช่วยเหลือผู้ประกันตนมาตรา 33 ซึ่งจะนำเสนอครม.เพื่อพิจารณาต่อไป

นายกรัฐมนตรี ชี้แจงถึงกรณีการเรียกคืนเบี้ยผู้สูงอายุ โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง และชะลอการเรียกเก็บเบี้ยดังกล่าวก่อน และไม่ต้องกังวลว่า จะมีการเรียกเงินคืน หรือต้องขึ้นศาลเพื่อดำเนินคดี และจะเร่งหาข้อสรุปให้ได้โดยเร็ว

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้ตอบคำถามประชาชนกรณีผู้ลงทะเบียนโครงการเราชนะที่ไม่มีสมาร์ทโฟนว่า ในกลุ่มดังกล่าวส่วนใหญ่จะถูกจัดอยู่ในกลุ่มของผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งจะได้รับเงินอัตโนมัติ ส่วนผู้ที่ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและไม่มีสมาร์ทโฟนสามารถลงทะเบียนได้ที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า รัฐบาลจะใช้การอภิปรายครั้งนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยยืนยันว่า ตนเองไม่มีเรื่องหนักใจ และขอให้การอภิปรายเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ ไม่เกิดปัญหาอื่นๆ จนทำให้เกิดผลกระทบตามมาได้ และขอประชาชนช่วยกันติดตามการอภิปรายครั้งนี้ด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ