"สมศักดิ์"มั่นใจอุดรอยรั่วมัชฌิมาแก้ปัญหาสมาชิกไหลออก/ไม่ห่วงไปซบ พปช.

          นายสมศักดิ์ เทพสุทิน หัวหน้ากลุ่มมัชฌิมา กล่าวว่า การรวมตัวกับกลุ่มการเมืองอื่นๆ เพื่อจัดตั้งกลุ่มเพื่อแผ่นดินนั้นมีข้อจำกัดมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยทั้ง 111 คนที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองและทำให้ไม่สามารถมีส่วนร่วมตั้งพรรคการเมืองได้ เพราะเกรงผิดกฎหมายและกระทบกับการทำงานการเมือง ทำให้มีผลกับการควบรวมกลุ่มการเมือง ดังนั้นจึงไม่ขอพูดอะไรที่ลึกมากไปกว่านี้เพราะถือเป็นเรื่องของข้อกฎหมาย
          นายสมศักดิ์ ยังแสดงความคิดเห็นต่อการให้สัมภาษณ์ของนายโสภณ เพชรสว่าง แกนนำกลุ่มมัชฌิมาที่ระบุว่าอดีต ส.ส.ภาคอีสาน 20 คนไม่พอใจการรวมกลุ่มครั้งนี้ ข้อเท็จจริงแล้วก็เป็นความรู้สึกของอดีต ส.ส.ผู้ใหญ่ที่มีความเป็นห่วงน้องๆ อดีต ส.ส.ที่บางเขตมีพื้นที่ทับซ้อนและอยากให้แก้ไข ซึ่งเชื่อว่าว่าเมื่อถึงเวลาที่สมควรจะสามารถแก้ไขในสถานการณ์ได้ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะอดีต ส.ส.ภาคอีสานที่อยู่กับมัชฌิมามีไม่ถึง 20 คน         
          "ในเรื่องของการควบรวมยังเป็นแค่จุดเริ่มต้นที่เพิ่งผ่านมาไม่กี่วัน หนทางก็ยังอีกยาวไกล ทุกคนต้องเข้าใจ เหมือนการเดินทางไปเชียงใหม่ ต้องผ่านเส้นทางหลายจังหวัด ตอนนี้เพิ่งถึงอยุธยา ไม่ต้องรีบ และเราก็เข้าใจว่านายโสภณ มีความเป็นผู้ใหญ่ที่เป็นห่วงน้องๆซึ่งไม่มีอะไร เราได้พูดคุยกันแล้ว" นายสมศักดิ์ กล่าว พร้อมเปรียบเทียบว่าถ้ารีบวิ่งไปถึงจุดหมายเร็วเกินไปอาจเป็นเหมือนสายการบินวันทูโกที่ประสบอุบัติเหตุเมื่อวานนี้
          ทั้งนี้ หากอดีต ส.ส.ภาคอีสานไม่พอใจแล้วย้ายออกไปอยู่กับพรรคพลังประชาชนนั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่เป็นไรหากจะมีใครกลับไปอยู่กับพรรคพรรคพลังประชาชน เพราะถือว่าเป็นบ้านเก่า(พรรคไทยรักไทย)ของเขาอยู่แล้ว
          หัวหน้ากลุ่มมัชฌิมา กล่าวถึงกระแสข่าวปัญหาภายในที่เกิดขึ้นในกลุ่มเพื่อแผ่นดินว่า กลุ่มมัชฌิมาขอให้เป็นหน้าที่ของผู้ประสานงานอย่างเป็นทางการไปดำเนินการ ส่วนกลุ่มมัชฌิมาก็จะทำงานของกลุ่มควบคู่ไปกับการควบรวมพรรคเพื่อแผ่นดิน ไม่มีเงื่อนไขอะไรและเชื่อมั่นว่าหนทางการเมืองยังสว่างไสว
          ผู้สื่อข่าวถามถึงความเป็นได้ในการเกิดพรรคเพื่อแผ่นดิน นายสมศักดิ์ กล่าวเพียงว่า จะเป็นพรรคเพื่อแผ่นดินได้หรือไม่ ตอบยากมาก คงไม่สามารถตอบได้เพราะต้องดูเงื่อนไขหลายอย่าง 
          ส่วนโอกาสที่กลุ่มมัชฌิมาจะกลับเป็นผู้จัดตั้งพรรคการเมืองเองนั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เวลาจะเป็นเครื่องชี้ให้เห็นถึงปัจจัยความจำเป็นว่าจะกลับไปตั้งพรรคเองหรือไม่ ทั้งพรรคการเมือง, สถานการณ์การเมือง, เศรษฐกิจ, สังคม และประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องของอนาคตที่จะตอบว่ามัชฌิมาจะกลับมาตั้งพรรคเองหรือไม่และจะสามารถสรุปสุดท้ายได้คือวันที่สมัครรับเลือกตั้ง