พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เกิดเหตุเสียงดังคล้ายระเบิด 2 ครั้งบริเวณใกล้สถานีรถไฟฟ้าเซนต์หลุยส์ ถนนสาทร เมื่อเวลา 19.00 น.วานนี้ หลังจากกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องต่อต้านรัฐประหารในประเทศเมียนมายุติการทำกิจกรรมบริเวณหน้าสถานทูตเมียนมา ประจำประเทศไทย
ต่อมา พล.ต.ต.เมธี รักพันธุ์ ผบก.น.6 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด (EOD) และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที โดยพบเศษวัสดุคาดเป็นระเบิดแสวงเครื่องขนาดเล็กคล้ายระเบิดปิงปอง ซึ่งมีอานุภาพไม่ร้ายแรงจนทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ จึงเชื่อว่าผู้ไม่หวังดีต้องการสร้างสถานการณ์ให้เกิดความวุ่นวายเท่านั้น
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) แถลงในช่วงสายวันนี้ว่า จากการตรวจสอบหลักฐานในที่เกิดเหตุเบื้องต้น พบว่าเป็นลูกบอลประทัด มีพลาสติกห่อหุ้มดินระเบิดแรงดันต่ำ แต่ไม่พบสะเก็ดระเบิด และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุในครั้งนี้
ขณะนี้ฝ่ายสืบสวนกำลังตามหาผู้ก่อเหตุ แต่ในช่วงเวลานั้นไม่มีคนสัญชาติเมียนมาอยู่ในสถานที่ดังกล่าวแล้ว จึงคาดว่าจะเป็นฝีมือของคนไทย แต่จะเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ก่อเหตุเดิมที่สามย่านก่อนหน้านี้หรือไม่ ยังไม่สามารถยืนยันได้ แต่หลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุต่างกัน เพราะที่สามย่านมีสะเก็ดระเบิด แต่ถึงจะไม่ใช่วัตถุที่มีอันตรายต่อชีวิต ก็สามารถดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุได้ ฐานทำให้เกิดเสียงดังอื้ออึง และทำให้ประชาชนตื่นตกใจ
ส่วนการรักษาความปลอดภัยสถานทูตเมียนมา ตำรวจนครบาลยังปฏิบัติตามปกติ แม้ว่าสถานการณ์การชุมนุมในประเทศเมียนมาจะตึงเครียดมากขึ้นก็ตาม
ส่วนการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่ก่อเหตุปาระเบิดในพื้นที่ สน.ปทุมวัน ก่อนหน้านี้ได้ออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาไปแล้ว 3 คน ส่วนผู้ที่ร่วมชุมนุม และจัดให้มีการชุมนุมกำลังตรวจสอบพยานและพิสูจน์ทราบตัวบุคคลเพิ่มเติมอยู่
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวถึงกรณีกลุ่มราษฎรนัดชุมนุมที่หน้าห้าง MBK เวลา 17.00 น.ในวันพรุ่งนี้ (10 ก.พ.) ว่า ขณะนี้ยังมีประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อยู่ หากกลุ่มใดทำกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโควิด-19 ทางเจ้าหน้าที่คงจะไม่อนุญาตให้จัดกิจกรรม แต่ยืนยันว่าหากมีการชุมนุมก็จะดูแลให้มีความเรียบร้อยมากที่สุด ขอความร่วมมือให้ทุกคนคำนึงถึงการแพร่ระบาดของโรค และอย่าฝ่าฝืนกฎหมาย