นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ชี้แจงถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย พาดพิงต่อกรณีที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาบ่อนการพนันว่า ตนขอปฏิเสธเรื่องดังกล่าว อีกทั้งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่เคยสั่งการมายังตนเรื่องบ่อนการพนัน มีเพียงข้อสั่งการให้แก้ปัญหายาเสพติด โดยมีนโยบายและแนวทางชัดเจน ต่อการตัดวงจรยาเสพติด ยึดทรัพย์ ตั้งเป้าทำให้ได้ ปีละ 60,000 ล้านบาท
"การปราบปรามยาเสพติด ด้วยการยึดทรัพย์ ได้กำหนดตัวชี้วัด โดยทุกจังหวัดต้องดำเนินการแบบบูรณาการ โดยใน 18 จังหวัดขนาดเล็กต้องขยายผล และยึดทรัพย์ ให้ได้ จังหวัดละ 50 ล้านบาท รวม 900 ล้านบาท , จังหวัดขนาดกลาง 31 จังหวัด ตั้งเป้าจังหวัดละ 70 ล้านบาท รวม 2,170 ล้านบาท, จังหวัดขนาดใหญ่ จำนวน 27 จังหวัด ตั้งเป้ายึดทรัพย์ให้ได้จังหวัดละ 90 ล้าน รวมเป็นเงิน 2,430 ล้านบาท และกทม. จำนวน 500 ล้าน ซึ่งในปีที่ผ่านมา จับและยึดทรัพย์ได้เพียง 600 ล้านบาท อย่างไรก็ดีในการปฏิบัติการพาลีปราบยา ที่ตรวจสอบเส้นทางการเงิน และยึดทรัพย์ สามารถอายัดทรัพย์ได้กว่า 1,900 ล้านบาทแล้ว" นายสมศักดิ์ กล่าว
ส่วนพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ชี้แจงประเด็นเรื่องบ่อนการพนัน โดยยืนยันว่าตนให้นโยบายกับหน่วยงานในสังกัด และสั่งการไปในพื้นที่ว่า ไม่ยุ่งเกี่ยวกับบ่อนการพนัน การค้ามนุษย์ หรือมีส่วนได้รับผลประโยชน์ ทั้งนี้หน่วยงานปกครองยังให้ความร่วมมือกับหลายหน่วยงานต่อการปราบปรามบ่อนการพนัน การค้ามนุษย์ แรงงาน เพื่อไม่ให้มีปัญหาอาชญากรรม นอกจากนั้นยืนยันว่ารัฐบาลคำนึงและให้ความสำคัญกับข้อมูลจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) ส่วนกรณีที่มีข้อกล่าวหาว่าการเก็บข้อมูลดังกล่าวล่าช้า นั้นเป็นเพราะผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19
ส่วนการจัดสรรงบภัยแล้ง พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ได้รับฟังความต้องการของประชาชนและต้องการตอบสนองประชาชน หากพบการทุจริต ตนจะดำเนินการ ส่วนกรณีการยื่นบัญชีทรัพย์สิน ไม่ต้องทำรายงาน ตนได้ทำส่ง 12 กันยายน 2562 ส่วนการประกาศหรือไม่ นั้น เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณีการชำระค่าเสียหายจากโครงการโฮปเวลล์ให้กับเอกชนว่า การฟ้องเรียกค่าเสียหายทางละเมิดกับบุคคลที่สร้างความเสียหายนั้นยังไม่หมดอายุความในเดือนเมษายน 2564 เนื่องจากตามมาตรา 9 ของ พ.ร.บ.ว่าด้วยการรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่กำหนดให้ฟ้องร้องไล่เบี้ยกับเจ้าหน้าที่ เพื่อชำระค่าเสียหาย แต่เรื่องดังกล่าวรัฐยังไม่เคยจ่ายค่าเสียหาย แม้ศาลจะตัดสินให้รัฐต้องชดใช้ แต่เมื่อรัฐยังไม่ชดใช้จึงไม่สามารถไล่เบี้ยเอาจากเจ้าหน้าที่รัฐหรือรัฐมนตรีได้
"ไม่ใช่เพราะคดีไม่ถึงที่สุด แต่รัฐไม่ได้ชำระเงิน เมื่อไม่ได้จ่ายจึงไม่เสียหาย การนับอายุความคือนับจากวันที่ชดใช้ อย่างไรก็ดีอายุความยังกำหนดไว้ในมาตรา 10 ด้วย แต่กำหนดว่า เจ้าหน้าที่รัฐสร้างความเสียหาย หรือละเมิดรัฐ แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ เช่น ผู้ว่าการรถไฟฯ รัฐมนตรี กระทำละเมิดต่อกระทรวงคมนาคม จึงไม่นำมาใช้ในกรณีดังกล่าว ดังนั้นกรณีการนับอายุความ 1 ปีจะเริ่มเมื่อรัฐจ่ายค่าชดใช้ให้กับบริษัท โฮปเวลล์ กรณีดังกล่าวยังเป็นปัญหาพิจารณาต่อไป" นายวิษณุ กล่าว
นายวิษณุ ยังชี้แจงกรณีการยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อป.ป.ช. ว่า ตนเองและ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ เสมือนรับตำแหน่งใหม่ต่อ ป.ป.ช. ถึงแม้กฎหมายจะมีข้อยกเว้นสำหรับรัฐมนตรีที่รับตำแหน่งต่อเนื่อง ส่วนจะประกาศหรือไม่เป็นเรื่องหน่วยงาน