พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ชี้แจงการอภิปรายไม่ไว้วางใจของนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล กรณีโยกย้ายนายตำรวจไม่เป็นธรรมว่า ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนและเป็นไปตามกฎหมายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ที่มีคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ และ พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2547 มีคณะกรรมการในพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ทุกอย่างยึดความอาวุโส ความเหมาะสม ความสามารถ พร้อมยืนยันที่ผ่านมาในการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจ ตนเข้าไปเกี่ยวข้องในระดับการประชุมข้าราชการตำรวจแห่งชาติ (ก.ตร.) ส่วนระดับล่าง ก็มีการกระจายให้กับผู้บังคับบัญชาได้พิจารณา ซึ่งก็เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของตำรวจ ส่วนตัวคงสั่งการเองทั้งหมดไม่ได้ และที่ผ่านมา ยังไม่ได้รับการร้องเรียนว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยตำรวจส่วนใหญ่ พอใจภาพรวมในการแต่งตั้งโยกย้าย
ทั้งนี้ โดยส่วนตัวเข้าใจว่าตำรวจที่ร้องเรียน มีการเสียเงินเสียทองเพราะถูกหลอกมากกว่า โดยหากใครมีหลักฐานก็ให้ส่งเรื่องเข้ามา พร้อมยืนยันว่าตนไม่มีเรียกรับประโยชน์ เช่นเดียวกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่เคยกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่หากการแต่งตั้งโยกย้ายไม่เป็นธรรม ก็สามารถร้องเรียนเข้าสู่คณะอนุกรรมการ ก.ตร.ได้ โดยการประชุมแต่ละครั้งก็จะมีการพิจารณาในเรื่องนี้ด้วย แต่สุดท้ายการพิจารณาของที่ประชุม ก.ตร. ก็เป็นไปอย่างรอบคอบ
ขณะที่การเปิดเผยรายชื่อตำรวจที่ได้รับการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายนั้น เป็นไปตามระเบียบของตำรวจที่ต้องเปิดเผยบัญชีรายชื่อ แต่จะมีการนำมาพิจารณาคัดกรองตามหลักเกณฑ์ต่อไป โดยเฉพาะนายตำรวจที่มีผลงานดี มีระดับอาวุโส ก็จะได้รับการแต่งตั้งมอบหมายงานที่ใหญ่ขึ้น
"ตำรวจเป็นองค์กรใหญ่ที่มีข้าราชการ 2 แสนกว่าคน ดังนั้นการปกครองตามสายบังคับบัญชาย่อมเกิดปัญหา แต่สิ่งที่จะแก้ปัญหาองค์กรที่ใหญ่ คือการนำกฎหมายเข้ามาใช้ โดยองค์กรที่ใหญ่ ย่อมมีคนดีและไม่ดี คนไม่ดีก็ต้องถูกลงโทษ จึงอยากให้ทุกคนเข้าใจไม่นำมาปนกันหมด แต่กฎหมายจะแยกแยะคนไม่ดีออกมา" นายกรัฐมนตรีระบุ
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ในช่วงที่ตนเป็นประธานก.ตร. อยู่นั้น ได้ปฏิบัติตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกฎหมายทุกอย่าง เป็นไปตามขั้นตอนของการดำเนินการทุกอย่าง และตามมติครม.ที่ได้มอบหมายไว้