นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า หลายครั้งที่ฝ่ายการเมืองทำให้เรื่องการจัดหาวัคซีนกลายเป็นความยากลำบากขึ้นไปอีก เพราะทางผู้ผลิต ไม่ต้องการตกเป็นเหยื่อทางการเมือง ยิ่งไปกว่านั้นการให้ข่าวว่าวัคซีนที่ไทยนำเข้ามามีประสิทธิภาพต่ำ มีผลข้างเคียง ทำให้ประชาชนเกิดความสับสน ทั้งที่ข้อเท็จจริงคือ การฉีดวัคซีนนั้นช่วยป้องกันอาการป่วยหนัก แทนที่จะสื่อสารเพื่อสร้างความมั่นใจ ให้ชาติปลอดภัย กลับเอาแต่นำเสนอด้านลบ จนสังคมเกิดความไม่มั่นใจ กลายเป็นอุปสรรคในการควบคุมโรค ตนเองต้องการให้ฝ่ายการเมืองนำเสนอเพื่อให้ชาติเดินหน้า ดีกว่ามุ่งทำทุกทางเพื่อเอาชนะคะคานกัน
ส่วนประเด็นเรื่องรัฐผูกขาด ล็อกสเปคนั้น ขอย้ำว่า ไทยพร้อมคุยกับผู้ผลิตทุกราย พร้อมขึ้นทะเบียน หากเป็นไปตามเงื่อนไข และพร้อมจัดหามาแน่นอน แต่ประเด็นคือ ผู้ผลิตหลายรายเสนอมอบวัคซีนในช่วงกลางปีถึงปลายปี ซึ่งทับซ้อนกับช่วงที่ไทยจะได้วัคซีนจากผู้ผลิตฝั่งยุโรป
นายอนุทิน ยืนยันว่า วัคซีนล็อตแรกจำนวน 2 แสนโดสของบริษัท ซิโนแวค อยู่ระหว่างการขนส่งจากจีนจะมาถึงไทยในวันที่ 24 ก.พ.นี้อย่างแน่นอน หลังจากนี้ไทยจะได้รับวัคซีนที่สั่งจองไว้ต่อเนื่องไป ส่วนจะฉีดให้ใคร พื้นที่ไหนบ้าง ให้เป็นไปตามการพิจารณาของคณะกรรมการที่รับผิดชอบ ซึ่งตนเองไม่ได้เข้าไปแทรกแซง ขณะที่ตนเองและ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จะได้รับการฉีดตอนไหนก็เป็นไปตามดุลพินิจของคณะกรรมการ
"เมื่อวัคซีนมาถึง ทาง อย.และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ต้องไปตรวจสอบเพื่อให้เกิดความมั่นใจ ก่อนปักลงบนแขนของคนไทย การได้วัคซีนมาแต่ละโดสนั้นต้องแข่งขันกันสูงมาก แต่ทีมประเทศไทยได้ทำงานหนักจนประสบความสำเร็จ เป็นเรื่องน่าชื่นชม" นายอนุทิน กล่าว