นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมระหว่างวันที่ 24-25 ก.พ.นี้ และขณะเดียวกันศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัยเรื่องหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาที่จะเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ
"เปรียบเหมือนไก่ช่วงใกล้ตรุษจีนจะถูกเชือดหรือไม่ ก็ยังไม่รู้"
นอกจากนี้ยังติดใจเรื่องหลักการและเจตนาว่า รัฐบาลมีธงอยากแก้ไขรายมาตราหรือไม่ หากใช่สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ก็จะไม่ใช่เป้าหมายของรัฐบาล จึงคงต้องรอดูการพิจารณาก่อน ขณะที่ยังแคลงใจเรื่องคะแนนโหวตจากเดิมใช้เสียง 3ใน 5 หรือ 450 เสียงในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่กรรมาธิการแก้มาเป็น 2 ใน 3 หรือ 500 เสียงขึ้นไป ซึ่งเป็นเงื่อนไขให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญยากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งฝ่ายค้านอยากให้กลับไปใช้ 3 ใน 5 เช่นเดิม
ประธานวิปฝ่ายค้าน คาดว่าจะมีพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมวาระ 3 ได้ในช่วงวันที่ 17-18 มี.ค.64 หลังเว้นวาระ 2 ไป 15 วัน ซึ่งต้องลงมติไปตามปกติ หากศาลรัฐธรรมนูญยังไม่มีคำวินิจฉัย โดยหากคำวินิจฉัยชี้ในทางลบก็จบแม้โหวตไปแล้ว
ด้านนายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ยืนยันว่า การพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมวาระในวันที่ 24-25 ก.พ.นี้ยังคงเดินหน้าต่อไปตราบใดที่ยังไม่มีคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญออกมาก็ต้องพิจารณาไปตามขั้นตอน หากไม่เสร็จต้องขยายไปวันที่ 26 ก.พ.64 หลังจากนั้น 15 วันก็ต้องเปิดประชุมสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาวาระ 3 โดยกระบวนการทั้งหมดเป็นขั้นตอน ไม่สามารถเร่งรัดได้ ถึงแม้บรรยากาศการพิจารณาจะไม่ดีตามที่นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้านระบุ แต่ก็ต้องเดินหน้าต่อไป เพราะทำอะไรไม่ได้แล้ว
ประธานวิปรัฐบาล ปฏิเสธกรณีที่ฝ่ายค้านชี้ว่ารัฐบาลตั้งธงแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา โดยยืนยันว่ายังไม่คิดถึงตรงนั้น แต่จะเดินหน้าตั้ง ส.ส.ร. และเลือกให้ได้ 200 คน หลังจากนั้นไปว่ากันอีกที โดยจะพยายามทำให้ดีที่สุด
ส่วนผลการวินิจฉัยการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับทำได้หรือไม่ของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นบวกหรือลบ ก็ต้องยอมรับมีผลกระทบ ซึ่งหากมีคำวินิจฉัยมาอย่างไรต้องหารือกับวิปฝ่ายค้านว่าจะพิจารณาแก้รายมาตราต่อเลยหรือไม่