ที่ประชุมร่วมรัฐสภา ลงมติรับหลักการร่างพ.ร.บ. ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. .... ที่คณะรัฐมนตรีเสนอ ด้วยเสียง 565 เสียง ไม่เห็นด้วย 2 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง พร้อมกำหนดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ 49 คน ขึ้นมาทำหน้าที่พิจารณาอาทิ นายวิชา มหาคุณ, พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.อำนวย นิ่มมะโน กรรมการปฏิรูป ประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม, นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว. , นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ เป็นต้น ส่วนสัดส่วนของพรรคภูมิใจไทยที่ได้โควต้า 3 คนนั้นไม่ประสงค์ส่งชื่อร่วมเป็นกรรมาธิการ
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่มีหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า ร่างพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ... ที่รัฐสภา เป็นฉบับของตำรวจ นั้นไม่ใช่ เพราะเป็นร่างฉบับเดียวกัน ที่ถูกเสนอโดยคณะกรรมการของพล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ที่เสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.)พิจารณา จากนั้นครม.ส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาชุดที่มีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ กรรมการกฤษฎีกา เป็นประธานทำงาน ซึ่งคณะทำงานมีบุคคลที่ร่วมทำงานกับพล.อ.บุญสร้าง ร่วมด้วย เพื่อขัดเกลาถ้อยคำ จากนั้นได้เสนอให้ตำรวจพิจารณาและตำรวจได้เสนอความเห็นปรับปรุง ดังนั้นจึงไม่ใช่เนื้อหาหลายฉบับตามที่ถูกตั้งข้อสังเกต
นายวิษณุ กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ เป็นกฎหมายเพื่อวางระบบ แต่การวางระบบจะดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับคน หรือ ตำรวจ 2.1 แสนคน ทั้งนี้ตำรวจมีคนที่ดี คนที่เลว แต่การวางระบบที่กำหนดไว้ดีแล้ว มีสมาชิกรัฐสภาสอบถามว่าหากทำกฎหมายแล้วส่วยจะหมดไป ตั๋วจะหมดไป หรือตำรวจจะดี ประชาชนนอนตาหลับหรือไม่ ตนมองว่าหากทำระบบให้ดีที่สุด ต่อไปคือการเคี่ยวเข็ญ คนให้เข้าสู่ระบบและอาศัยการติดตาม
ด้านนายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง และโฆษกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) แถลงท่าทีของพรรคภายหลังวอล์คเอาท์ออกจากห้องประชุมเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า พรรคไม่เห็นด้วยกับการขอเลื่อนระเบียบวาระร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ที่ค้างการพิจารณาจากครั้งที่แล้ว และร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม ขึ้นมาพิจารณาก่อนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมแห่งราชอาณาจักรไทย วาระ 2 ซึ่งบรรจุไว้ในระเบียบวาระอยู่แล้ว เพราะพรรคภูมิใจไทยได้แสดงจุดยืนตลอดตั้งแต่แรกในการเสนอแก้รัฐธรรมนูญ และเป็นพรรคแรกที่ประกาศว่าจะเดินหน้าแก้ไขโดยตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) วันนี้เจตนารมณ์ของเรายังไม่เปลี่ยนแปลง เรามีเจตนาเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ดังนั้นอะไรก็แล้วแต่ที่จะขัดขวางไม่ให้การแก้ไขเดินหน้าเราไม่เห็นด้วย
โฆษกพรรค ภท.กล่าวว่า แม้ว่าประธานรัฐสภาบอกว่าอาจนัดประชุมเพิ่มเติมในวันที่ 26 ก.พ.นี้ได้ แต่เหตุการณ์ยังไม่เกิดขึ้น และยังไม่ได้นัดหมายในระเบียบวาระ เราจึงกังวลว่าจะมีกระบวนการมาดึงรั้งกระบวนการแก้ไขไม่ให้เดินหน้าหรือไม่
"เราไม่กล้ามองว่าใครมีเจตนายื้อเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ แต่พฤติกรรมที่ผ่านมาของแต่ละพรรคก็แสดงให้เห็นว่าใครมีเจตนาอย่างไรในการแก้ไข เราเพียงแต่ไม่เห็นด้วยที่จะเลื่อนเรื่องอื่นขึ้นมาพิจารณา เพราะเรื่องข้อจำกัดที่มีเวลาพิจารณาแค่ 2 วัน ทั้งที่รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องใหญ่มาก มีเนื้อหาสาระที่สมาชิกแปรญัตติไว้จำนวนมาก จึงกังวลว่าจะไม่สามารถพิจารณาได้เสร็จในสมัยประชุมนี้" นายภราดร กล่าว
โฆษกพรรค ภท. กล่าวว่า กรณีดังกล่าวไม่มีความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์อภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เราอยากให้เรื่องรัฐธรรมนูญมีการพิจารณาโดยด่วน