พระสงฆ์นับหมื่นรูปและผู้สนับสนุนได้ออกมาเดินขบวนประท้วงวันนี้ในกรุงย่างกุ้ง ซึ่งการประท้วงครั้งใหญ่สุดในรอบเกือบ 20 ปีนี้ได้สร้างแรงกดดันให้กับรัฐบาลทหารพม่า
พระสงฆ์ราว 15,000 รูปนำขบวนประชาชนอย่างน้อย 30,000 คนออกมาประท้วงทั่วท้องถนนย่านใจกลางกรุงย่างกุ้ง โดยทั้งหมดเริ่มออกเดินทางผ่านเจดีย์ชเวดากอง และสำนักงานของพรรคสันนิบาตแห่งชาติ (เอ็นแอลดี) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านของนางอองซาน ซูจี
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียล รายงานว่า ระหว่างการเดินขบวนประท้วงพระสงฆ์ได้ท่องบทสวดมนต์เพื่อสันติภาพ และเจ้าหน้าที่พรรคเอ็นแอลดีก็เข้าร่วมในการเดินขบวนด้วย ซึ่งภายในเวลาเพียง 45 นาทีก็มีฝูงชนมาเข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นคน
รัฐบาลทหารพม่าจนถึงขณะนี้ยังคงสงวนท่าที โดยนักวิเคราะห์เชื่อว่า การกระทำรุนแรงใดๆต่อพระสงฆ์ในพม่าซึ่งเป็นชาติที่ความศรัทธาในพุทธศาสนาได้หยั่งรากลึกเช่นนี้จะก่อให้เกิดความโกรธแค้นรุนแรง จึงมีแนวโน้มว่าเหล่าทหารระดับสูงต้องการแก้ไขปัญหาโดยสันติ
เดวิด แมทธีสัน ที่ปรึกษาด้านพม่า ประจำองค์กรสิทธิมนุษยชน ฮิวแมน ไรท์ส วอทช์ กล่าวว่า พลเรือนเข้าร่วมกับพระสงฆ์ในการประท้วงวันอาทิตย์และวันจันทร์แสดงให้เห็นถึงท่าทีของการประท้วงที่เพิ่มมากขึ้น
"ผมรู้สึกดีที่ทางการยังไม่ทำอะไรรุนแรงกับกลุ่มผู้ประท้วง แต่มันก็ยังคงเป็นช่วงเวลาตึงเครียดอย่างยิ่งที่จะต้องคอยดูว่าทางการจะมีปฏิกิริยาอย่างไร" เขากล่าว
วิน หมิ่น นักวิเคราะห์พม่าประจำประเทศไทย กล่าวว่า เขารู้สึกวิตกว่าความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นจะส่งสัญญาณว่าจะเกิดเรื่องเลวร้าย
"หากประชาชนไม่เชื่อฟังคำสั่งของรัฐบาล ก็อาจเกิดความรุนแรงได้" เขากล่าวแสดงความเห็น
ทั้งนี้ การประท้วงต่อต้านรัฐบาลเกิดขึ้นหลังจากที่ทางการประกาศเพิ่มราคาเชื้อเพลิงขึ้นหลายเท่าเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนในประเทศที่ยากจนอย่างพม่า
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ฤดี ภวสิริพร/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--