รายงานข่าว แจ้งว่า ที่ประชุมรัฐสภาได้พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ.... วาระสอง โดยในช่วงท้ายของการพิจารณามีประเด็นสำคัญอยู่ที่การนำร่างรัฐธรรมนูญไปทำออกเสียงประชามติ ซึ่งกรรมาธิการฯ (กมธ.) ได้แก้ไข โดยวางหลักการสำคัญไว้คือ กรณีที่ร่างรัฐธรรมนูญต้องตกไปนอกจากมีเสียงไม่เห็นชอบแล้ว ยังกำหนดให้มีผู้มีสิทธิออกเสียงมาออกเสียงไม่ถึงกึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ใช้สิทธิออกเสียงด้วย
ทั้งนี้มีสมาชิกรัฐสภาไม่เห็นด้วย เนื่องจากมองว่าการกำหนดหลักการดังกล่าวไว้อาจเปิดช่องให้ผู้มีอำนาจที่ไม่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ดำเนินการให้ผู้ออกมาใช้สิทธิไม่ถึงกึ่งหนึ่งได้ อาทิ ประชาสัมพันธ์ไม่ทั่วถึง เป็นต้น อย่างไรก็ดี กมธ.ฯ ชี้แจงว่า ข้อกำหนดดังกล่าวได้บัญญัติเพื่อให้สอดคล้องกับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติ โดยเสียงข้างมาก 521 เสียงเห็นด้วยกับ กมธ.ฯ ต่อ 42 เสียง และงดออกเสียง 17 เสียง
และมาตราว่าด้วยกรณีที่ร่างรัฐธรรมนูญที่จัดทำขึ้นนั้นตกไป กมธ.ฯ ไม่มีการแก้ไข โดยสาระสำคัญ ระบุให้ใช้เสียงของคณะรัฐมนตรี หรือ ส.ส.ไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 หรือเสียงของ ส.ส.รวมกับ ส.ว.จำนวน 1 ใน 5 เสนอญัตติให้ทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยใช้เกณฑ์เห็นชอบที่คะแนนไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของสมาชิกเท่าที่มีอยู่ของสองสภา สำหรับมติของรัฐสภาที่เกิดขึ้นกำหนดไว้ด้วยว่า เมื่อรัฐสภามีมติอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วจะเสนอญัตติอีกไม่ได้ เว้นแต่จะมีการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่แล้ว นอกจากนั้นกำหนดหลักการห้ามบุคคลที่เป็น ส.ส.ร.กลับมาเป็น ส.ส.ร.อีก
ทั้งนี้ กมธ.เสียงข้างน้อย ได้แก่ นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และนายรังสิมันต์ โรมส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายขอแก้ไขให้ตัดเนื้อหาที่บังคับห้ามเสนอญัตติแก้รัฐธรรมนูญอีก หากรัฐสภาไม่เห็นด้วยจนกว่าจะมีการเลือกตั้งรอบใหม่ โดยนายรังสิมันต์ขอร้องต่อรัฐสภา เพื่อให้กลไกแก้ปัญหาประเทศเกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ดี กมธ.เสียงข้างมากยืนยันในเนื้อหาเดิม เพราะไม่มีการแก้ไข จากนั้นที่ประชุมลงมติ ผลปรากฎว่าเสียงข้างมาก 393 เสียงเห็นด้วยกับกมธ.ฯ ต่อ 157 เสียง งดออกเสียง 12 เสียง
และมาตราว่าด้วยการจัดการเลือกตั้ง ส.ส.ร.ภายใน 30วัน นับจากวันที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขมีผลบังคับใช้ และกำหนดให้การเลือกตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 90 วันนับจากวันที่รัฐธรรมนูญใหม่ใช้บังคับ ซึ่งที่ประชุมเห็นด้วยอย่างเป็นเอกฉันท์ 514 เสียง
หลังจากนั้นนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวกับที่ประชุมว่า ได้พิจารณาเรียงลำดับมาตราและถือว่ารัฐสภาได้พิจารณาวาระสองเสร็จสิ้นแล้ว ทั้งนี้ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 256(5) กำหนดไว้ว่าให้รอไว้ 15 วันและพ้นกำหนดให้พิจารณาวาระสามต่อไป ซึ่งจะนัดหมายต่อไป จากนั้นเลขาธิการสภาฯ ได้อ่านพระบรมราชโองการปิดประชุมรัฐสภาสมัยสามัญ ประจำปีครั้งที่ 2
ทั้งนี้ ที่ประชุมรัฐสภาได้ใช้เวลาพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ.... วาระสอง ตั้งแต่วันที่ 24-25 กุมภาพันธ์ ใช้เวลารวมทั้งสิ้นเกือบ 20 ชั่วโมง