รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง มีมติส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงหรือไม่ หลังศาลอาญาได้มีคำพิพากษา ดังนี้
1.นายชุมพล จุลใส (จำเลยที่ 3) ส.ส.จังหวัดชุมพร เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ ต้องคำพิพากษาจำคุก 9 ปี 24 เดือน และให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนด 5 ปี
2.นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ (จำเลยที่ 4) รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ต้องคำพิพากษาจำคุก 7 ปื
3.นายอิสสระ สมช้ย (จำเลยที่ 5) ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ต้องคำพิพากษาจำคุก 7 ปี 16 เดือน และให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนด 5 ปี
4.นายถาวร เสนเนียม (จำเลยที่ 7) รมช.คมนาคม และ ส.ส.จังหวัดสงขลา เขต 6 พรรคประชาธิปัตย์ ต้องคำพิพากษาจำคุก 5 ปี
5.นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ (จำเลยที่ 8) รมว.ศึกษาธิการ และ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ต้องคำพิพากษาจำคุก 6 ปี 16 เดือน และให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนด 5 ปี
ทั้งนี้ การดำเนินการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยดังกล่าว กกต.ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 82 และมาตรา 170 ซึ่งกำหนดว่าในกรณีที่ กกต.เห็นว่าสมาชิกภาพของ ส.ส.สิ้นสุดลงหรือความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลง ให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย