นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคฯ และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคฯ ได้เชิญคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ประชุมในวันที่ 12 มี.ค.นี้ เวลา 14.00 น. หลังจากนั้นจะมีการประชุมร่วม กก.บห.และ ส.ส.ในเวลา 16.00 น.ที่ห้องประชุม ชั้น 3 อาคาร ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เพื่อพิจารณาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และเรื่องอื่นๆ
โฆษก ปชป. กล่าวว่า ขณะนี้ยังตอบไม่ได้ว่าจะมีผู้ใดบ้างที่ได้รับการเสนอชื่อเพื่อดำรงตำแหน่งทางการเมืองดังกล่าว เพราะเป็นอำนาจของ กก.บห.ที่จะเป็นผู้นำเสนอให้ที่ประชุมพิจารณา ซึ่งพรรคมีบุคลากรที่มีศักยภาพ มีความรู้ความสามารถหลายคนที่พร้อมเข้าไปทำงานให้กับประชาชน และไม่มีความกังวลว่าหากมีผู้ไม่ได้รับตำแหน่งจะเป็นเหตุให้เกิดปัญหา เพราะทุกคนในพรรคฯ ยอมรับกระบวนการที่เป็นไปตามข้อบังคับพรรค
ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่อยู่ระหว่างรอพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมสมัยวิสามัญในวันที่ 17-18 มี.ค.นี้ นายราเมศ กล่าวว่า ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ได้แสดงความจริงใจในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองมาโดยตลอด ตั้งแต่การยื่นเป็น 1 ในเงื่อนไขในการร่วมรัฐบาล และรัฐบาลก็บรรจุไว้เป็นนโยบายเร่งด่วนจนนำไปสู่การที่มี ส.ส.ของพรรคยื่นให้มีการตั้ง กมธ.วิสามัญ เพื่อศึกษาในเรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ จนต่อมามีการเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญต่อรัฐสภา
โฆษก ปชป. กล่าวว่า เป็นความตั้งใจของพรรคฯ ในการผลักดันให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่มีความเป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น ในชั้นการพิจารณาของรัฐสภาจะเห็นว่าจากการที่มี ส.ส.จากบางพรรคได้เสนอให้มีการตั้ง กมธ.ก่อนรับหลักการ ซึ่งพรรคฯ ก็ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ สิ่งเหล่านี้จึงเป็นการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรคฯ ในเรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ชัดเจน และมีความจริงใจ โดยพรรคฯ ต้องการให้มีการดำเนินกระบวนการต่างๆ เป็นไปตามครรลองที่รัฐธรรมนูญได้กำหนดไว้
ส่วนกรณีที่ประชุมร่วมรัฐสภามีมติส่งญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมไปให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าร่างฯ ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ พรรคฯ ก็เห็นว่า ร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าว รัฐสภาสามารถดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้ พรรคฯ จึงไม่เห็นด้วย แต่เมื่อที่ประชุมร่วมรัฐสภามีมติให้ส่งญัตติดังกล่าวไปให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยความชอบของรัฐธรรมนูญ โดยในวันพรุ่งนี้ (11 มี.ค.2564) ก็จะมีการนัดฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ พรรคฯ ก็จะได้ติดตามรับฟังอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าผลจะออกมาในทิศทางใด พรรคฯ ก็พร้อมน้อมรับในคำวินิจฉัย
โฆษก ปชป. กล่าวว่า พรรคฯ ต้องรอพระราชกฤษฎีกาให้มีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญก่อน และหลังจากนั้นก็จะมีการเรียกประชุม ทั้งนี้มีร่างกฎหมายที่อยู่ในระเบียบวาระประกอบด้วย ร่างกฎหมายที่ด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมายซึ่งเป็นกฎหมายปฏิรูป กฎหมายการทำประชามติ รวมไปถึงร่าง พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งที่ประชุมก็จะได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวด้วย