นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังลงพื้นที่ติดตามโครงการคนละครึ่งและเราชนะที่ตลาดประตูเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ว่า จากการสอบถามพ่อค้าแม่ค้าแล้วพบมีปัญหาเรื่องระบบแอปพลิเคชันขัดข้อง แต่โดยรวมแล้วพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนชื่นชมโครงการนี้ มีเสียงตอบรับว่าทำให้การค้าขายดีขึ้น ประชาชนมาจับจ่ายซื้อของ เกิดการหมุนเวียนจำนวนเงิน ทำให้มีรายได้เพิ่มจากเดินมากขึ้น โดยพ่อค้าแม่ค้าได้เสนอให้เพิ่มระยะเวลาการใช้วงเงินในโครงการให้ไวขึ้นกว่าเดิม เพราะมีประชาชนมาใช้จ่ายตั้งแต่เช้าทำให้เสียโอกาสไม่สามารถใช้วงเงินได้ต้องรอเวลา 06.00 น.ซึ่งจะได้นำข้อคิดเห็นไปเสนอต่อไป ส่วนการต่ออายุโครงการฯ นั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มีนโยบายให้สานต่อโครงการที่ประสบความสำเร็จเกิดประโยชน์ต่อประชาชน เชื่อว่ารัฐบาลจะสานโครงการต่อไปอย่างแน่นอน
ส่วนกรณีที่ ศบค.มีมติไม่ให้มีการสาดน้ำ ประแป้งในเทศกาลสงกรานต์ แต่เป็นการรดน้ำดำหัว จัดกิจกรรมพิธีตามประเพณีนั้น จะต้องกำชับประชาชนเรื่องการเว้นระยะห่างและสวมหน้ากากอนามัย รวมถึงจะต้องระมัดระวังในการรวมกลุ่มกัน เพราะการรวมตัวกันทำกิจกรรมจำนวนมากอาจจะทำให้เกิดซูเปอร์สเปรดเดอร์ขึ้นได้จึงต้องระมัดระวัง เมื่อสถานการณ์โควิดถือว่าเบาบางลงรัฐบาลจึงผ่อนคลายมาตรการให้สามารถจัดกิจกรรมสงกรานต์ได้เพียงแต่ไม่ให้สาดน้ำประแป้งแต่ดำเนินกิจกรรมอื่นๆ ตามประเพณีได้ โดยขอไม่ให้มีการรวมกลุ่มกันเป็นคนหมู่มาก เช่น การสรงน้ำพระ
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยว วัด ที่อยู่ในกำกับของสำนักนายกรัฐมนตรีนั้นได้กำชับเป็นพิเศษเรื่องการจัดกิจกรรมแบบ New Normal พร้อมกันนี้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนประชาชนให้ออกมาท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์ ทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว ทำบุญตามประเพณี ส่วนบทลงโทษหากมีการฝ่าฝืนเล่นน้ำและประแป้งให้เป็นไปตามกฎหมาย แต่เชื่อว่าถ้าทุกคนรักษาตามมาตรการที่มีอยู่ในแต่ละจังหวัด รวมถึงมาตรการของรัฐบาลถือว่าเพียงพอแล้ว ขออย่าเป็นกังวลร่วมมือกันเพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้